12 พฤศจิกายน 2567 ความเคลื่อนไหวการเมืองตอนนี้ ต้องโฟกัสไปที่การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ที่มีการ"เลือกตั้งนายก อบจ." ก่อนครบวาระ ติดต่อกันหลายจังหวัด สำคัญกว่านั้นเป็นการลงสู้ศึกของบรรดาพรรคการเมืองใหญ่ ที่ขนขุนพลแถวหน้าการเมืองลงพื้นที่เต็มอัตราศึก
อย่างที่ทราบกันดี การเลือกตั้ง "นายก อบจ.อุดรธานี" จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ขณะที่ วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน ก็มีการเลือกตั้ง "นายกอบจ.สุรินทร์"เป็นการเลือกก่อนถึงวันเลือก"นายก อบจ.อุดรธานี"หนึ่งวัน ซึ่งทั้งสองวันสองจังหวัด ล้วนมีความสัมพันธ์เชิงการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ
เริ่มที่ "จังหวัดอุดรธานี" จากข้อมูลทั่วไปในการเลือกตั้ง "นายก อบจ.อุดรธานี" พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน1,258,454 คน จาก 20 อำเภอ 42 เขตเลือกตั้ง 2,242 หน่วยเลือกตั้ง
เวทีนี้จะเป็นพื้นที่ปะทะกัน ระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" ที่ส่ง "ศราวุธ เพชรพนมพร" อดีตสส.อุดรฯสี่สมัยและบุตรเขยอินทรีอีสาน"พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก" เข้าแข่งขัน โดย"เสี่ยป๊อป" แตะมือ "วิเชียร ขาวขำ" อดีตนายกอบจ.อุดรฯสามสมัยและอดีตสส.เจ็ดสมัยค่ายเดียวกันในการท้าชิงและทวงเครดิตพรรคเพื่อไทยกลับมา
สมรภูมิเลือกนายก อบจ.อุดร "เสี่ยป๊อป" ปะทะกับทนายแห้ว "คณิศร ขุริรัง" อดีตรองนายกอบจ.อุดรฯ และประธานสภาทนายความ จ.อุดรธานี พรรคประชาชน
ไฮไลท์งวดนี้คือ "ทักษิณ ชินวัตร" มีคิวลงพื้นที่เมืองอุดรฯเเละ "พรรคสีส้ม" ระดมเเม่ทัพนายกองมากันเเบบครบทีมในการหาคะเเนน
หันมองอาการผู้ท้าชิงอย่าง "พรรคประชาชน" ที่จะประชันกับ "ค่ายสีแดง" พบว่า ค่ายสีส้มขน"ทัพหลวง" นำโดย "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" และ" ปิยะบุตร แสงกนกกุล" แห่งคณะก้าวหน้า / "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล/ "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" หัวหน้าพรรคประชาชน จัดสรรพกำลังลงพื้นที่ปลุกกระแส "ส้ม" ยึดอุดรฯให้ได้
"ค่ายสีส้ม" มุ่งมั่นอย่างเต็มที่จะปักธงในจังหวัดนี้ เพื่อประเดิมเก้าอี้แรกของการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นให้ได้ หลังผิดหวังมาแล้วในหลายจังหวัดที่ผู้สมัครของพรรคสีส้มทั้งสามเวอร์ชั่น(อนาคตใหม่-ก้าวไกล-ประชาชน ) ยังไม่พบกับคำว่า "ชนะ"
ส่วนเเชมป์เก่าอย่าง "พรรคเพื่อไทย" เอ็กซเรย์กันเเบบละเอียด พบว่า "จ.อุดรฯ" นับว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงของคนเสื้อแดงแดนอีสาน ฉะนั้นค่ายสีแดงไม่ยอมค่ายสีส้มแน่นอน จึงเป็นเหตุให้ "ทักษิณ" พร้อมลงพื้นที่นี้ ในบทบาท"ผู้ช่วยหาเสียง " เเม้อดีตสร.1 สองสมัยซ้อน จะอ้างว่าไปพบกองเชียร์ที่หายห่างไปหลายปีก็ตาม
ตรงนี้เป็นการทวงบัลลังก์ของค่ายสีแดงและปั่นกระแส "เบอร์หนึ่งแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า" ให้คัมแบ็กเเละเป็นเเรงส่งถึงสร.1คนปัจจุบันไปในตัว
"พรรคเพื่อไทย" หาเเต้มคราวนี้ภายใต้แคมเปญ "อุดรฯทั้งหัวใจ เลือก ศราวุธ เพชรพนมพร มาทำงาน" ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2567 นำโดยอดีตนายกฯ ในดวงใจ พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทยเเละคนเสื้อเเดง เช่น วิเชียร ขาวขำ อดีตนายกฯ อบจ.อุดรธานี จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ อดีตแกนนำ นปช. เเละขวัญชัย ไพรพนา ดูไปดูมา พรรคเพื่อไทยโหมกระแสไม่ต่างจากการเลือกตั้งสส.
การที่แกนนำสส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ไปช่วยหาเสียงให้กับ "ศราวุธ" เนื่องจากไม่ต้องการให้ "พรรคประชาชน" สร้างกระแสเติบโตในวันนี้และวันข้างหน้า อีกทั้งค่ายสีแดงน่าจะปรามกระแส "คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในอีสานและเป็นการดึงดูดสองสส.อุดรฯ คือเขต 3 "หรั่ง ธุระพล" และเขต 6 "อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์" พรรคไทยสร้างไทยให้เปลี่ยนค่ายในรอบหน้า สัญญาณเริ่มปรากฏชัดแล้วว่า สส.สองคนนี้มีใจให้ค่ายสีแดงแนบแน่นยิ่ง และยังต้องจับตาเวทีอื่นๆในภาคอีสานซึ่ง"พรรคเพื่อไทย"จะปะทะกับ "ค่ายสีน้ำเงิน" ในพื้นที่หมายตาและจ้องปักธงสนามเหล่านั้นด้วยในเร็ววันนี้
เมื่อพิจารณาผลการเลือกตั้งสส.อุดรฯครั้งล่าสุดที่มีทั้งสิ้น10 เขต ปรากฎว่า"พรรคเพื่อไทย" ชนะ7 เขต "พรรคไทยสร้างไทย" ได้ 2 เขต และ"พรรคก้าวไกล" คว้า 1 เขต โดยหนึ่งเขตที่ "พรรคสีส้ม" คว้าไปนั้นคือเขตหนึ่ง คราวนั้น พบว่า"ศราวุธ" แพ้ "ณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ" สส.พรรคก้าวไกลแบบพลิกกระดานเซียน
ช่วงนั้นกระแสข่าวสนั่นเมืองอุดรฯ หากพรรคเพื่อไทย ปักธงได้ทั้งสิบเขต "เสี่ยป๊อป"มีลุ้นเป็นรมต.!?! เเต่เมื่อ"เสี่ยป๊อป"พ่ายเเละเสียสองเขตให้พรรคไทยสร้างไทย ตรงนี้ค่ายสีเเดงจึงต้องยกเครื่องใหม่!?!?
สำหรับโอกาสในวันนี้ พบว่า "ค่ายสีแดง" มีแต้มต่อที่เหนือกว่า "พรรคประชาชน" เกือบทุกมุม ตั้งแต่ฐานเสียง สรรพกำลัง (กระแสและกระสุน) รวมทั้งยุทธศาสตร์ "บ้านใหญ่" ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ในพื้นที่เป้าหมายหลายจังหวัด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ล้มผู้สมัครจาก "ค่ายสีส้ม" ที่ไร้กองหนุนในส่วนนี้
จากผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและเลือกตั้งซ่อมสส.พบว่า ผู้สมัครจาก "ค่ายสีส้ม" พ่ายแพ้( ไล่เรียงประวัติศาสตร์พรรคสีส้มคว้าสส.ในสองสมัยที่ผ่านได้มาก เหตุผลมาจากผลการเลือกตั้งล่วงหน้า/เลือกตั้งนอกเขต/กระแสสื่อ/กระแสโลกออนไลน์)
การที่ "ทักษิณ" ขยับตัวทางการเมือง แม้วันนี้จะถูกโจมตีประเด็น ชายชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ และการครอบงำพรรคเพื่อไทย/ครอบครองสร.1คนปัจจุบันเป็นปัจจัยลบที่ไล่รุกให้ความชอบธรรมของค่ายสีแดงลดลง นี่ยังต้องมารอลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องคดีล้มล้างการปกครองฯ ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้อีกด้วย
แต่หากจับชีพจรการเมือง"ทักษิณสไตล์" จะพบอาการชิลล์ๆ แบบไร้ข้อกังวล ดังนั้น จังหวะนี้ของ "ทักษิณ" บุกแดนอีสานโดยจะควงเเกนนำพรรค/คนเสื้อเเดงปั่นคะเเนนกันใหม่นั้นย่อมมีนัยการเมือง
"ทักษิณ" เเละขุนพลพรรคเพื่อไทยกำลังโหมกระแสไม่ต่างจากการเลือกตั้งสส. เชื่อว่าจังหวัดเป้าหมายหลายแห่งที่จะต้องมีการเลือกตั้ง"นายกอบจ." ค่ายสีแดงจะใช้วิธีนี้ลุยปักธงและหวังผลกับสนามสส.งวดต่อไปด้วย เนื่องจาก การเลือกตั้งเมื่อปี66 "พรรคเพื่อไทย" เสียพื้นที่และจำนวนสส.ให้พรรคสีส้มและพรรคอื่นๆมากมาย
เมื่อ"นายใหญ่ตัวจริง" ออกโรง โอกาสทวงเก้าอี้แชมป์เก่าเลือกตั้งสส.หลายสมัย ( พรรคไทยรักไทยสองสมัยคือปี 2544 เเละ 2548 พรรคพลังประชาชนหนึ่งสมัยคือปี 2550 พรรคเพื่อไทยสองสมัยคือปี 2554 เเละ 2562 เเละปี 2566 เสียเข็มขัดให้พรรคสีส้ม) ให้คืนกลับมานั้นเป็นการบ้านที่คนใน "ค่ายสีแดง" ต้องบุกแหลก
จิตวิทยา ชิงธงเมืองช้างหวังสะเทือนถึง"อุดรฯ"
อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น ไม่ใช่เฉพาะที่ "อุดรธานี" ล่าสุดมีกระเเสข่าวว่า "ทักษิณ" วางกำหนดการไปจ.สุรินทร์ในวันที่19 - 20 พฤศจิกายน เนื่องจาก เลือกตั้งนายกอบจ. เมืองช้าง จะลงคะเเนนวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน โดยมีผู้สมัครนายกอบจ.5 คน มีกระเเสข่าวว่าทักษิณอาจไปช่วย "นัทธมน ศิริวัฒนวานิช" อดีตรองนายกอบจ.เมืองช้างหาเเต้ม โดยรอบนี้ "นัทธมน" เเยกตัวเเละเเข่งขันกับ"ตระกูลมุ่งเจริญพร" เเห่งพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องตามกันต่อว่าทักษิณจะลุยเมืองช้าง พร้อมฝ่าด่านสีน้ำเงินหรือไม่ ทางการเมืองรับรู้ดี คนค่ายนี้ส่วนใหญ่เคยสังกัดค่ายสีเเดงมาก่อน ตรงนี้ต้องติดตามกันต่อว่าผลจะเป็นเช่นใด
อีกประการ การคาดหวังชัยชนะ "นายกอบจ.สุรินทร์" ยังมีผลเชิงจิตวิทยา ปลุกกระแสแรงฮึด แบรนด์เพื่อไทย แพร่กระจายข่าวไปถึงสนามเลือกตั้ง"นายกอบจ.อุดรธานี" ในวันรุ่งขึ้น ( เลือกตั้งนายกอบจ.อุดร วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน )
วางเกมยาว เลือกตั้ง"นายกอบจ.อุบลฯ"
มองเกมยาวถึงการเลือกตั้งนายกอบจ.อุบลราชธานีในวันที่ 22 ธันวาคม ขณะนี้มีผู้สมัคร 4 คน "กานต์ กัลป์ตินันท์" อดีตนายกอบจ.อุบลฯ สวมเสื้อพท.ป้องกันบัลลังก์โดยจะวัดกับ "จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล" ที่ปรึกษาพรรคไทรวมพลัง(พรรคเพื่อไทรวมพลังในอดีต) /อดีต สส.นครราชสีมา เเละยังเป็นน้องสาวของ "ยลดา หวังศุภกิจโกศล" นายก อบจ.นครราชสีมา
อย่าลืมว่าตระกูลแป้งมันเเดนอีสานเเยกเป็นสองสาย โดยสายที่อยู่กับพท.นั้นคือ"ฝั่งโคราช" เเต่ "ฝั่งเมืองดอกบัว" คือ พันธมิตรกลายๆ ของเพื่อไทย ซึ่ง "เกรียง กัลป์ตินันท์" อดีตรมช.มหาดไทย ค่ายสีเเดงไม่ปลื้มสายสัมพันธ์นี้นักเพราะพรรคไทรวมพลัง มีสส.อุบลฯสองคน ด้วยการล้มเเชมป์เก่าของพท.ไปได้คือ "พิมพกาญจน์ พลสมัคร" ส.ส.เขต 3 ที่ชนะ "ชูวิทย์ พิทักษ์พรวัลลภ" ส.ส.หลายสมัย เเละ "สมศักดิ์ บุญประชม" สส.เขต10 ที่เอาชนะแชมป์เก่า" สมคิด เชื้อคง" ขาดลอย สนามเมืองอุบลฯต้องคอยดูว่าทักษิณจะไปฟื้นเเต้มพท.ให้คัมเเบ็กหริอไม่
เกมเดือดสนามภูธรหลายเวที โดยเฉพาะเเดนอีสานที่กำลังเกิดขึ้นนั้น จะเป็นการวัดเรตติ้งและกระแสระหว่าง "เบอร์หนึ่งค่ายสีแดง" กับขุนพล "ค่ายสีส้ม" ที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะ
บางสนามควรจับตาเกมช้างชนช้าง คือ "เพื่อไทย ปะทะ พรรคภูมิใจไทย" รวมทั้งศึกคนกันเองของ"เพื่อไทย" เช่นสนามเมืองดอกบัว เพราะจะส่งผลกับสนามสส.ในวันข้างหน้าไปในตัว