ที่วัดชินวราราม อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการเตรียมลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราดในวันเสาร์นี้ ว่า เกาะกูดมีหน่วยกำลังของกองทัพเรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ตนจะไปดูความเป็นอยู่และเยี่ยมเยียนกำลังพล เนื่องจากมีนโยบายที่จะไปตรวจเยี่ยมกำลังพลอยู่แล้ว อีกทั้งมีประเด็นเรื่องเกาะกูดเกิดขึ้น จึงใช้โอกาสนี้ลงพื้นที่ เพื่อไปดูสถานที่จริงว่ายังมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ และการเดินทางครั้งนี้เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทย เพราะกองกำลังทหารของเราก็อยู่ที่นั่น ทำหน้าที่ป้องกันอธิปไตยของประเทศ รวมถึงหน่วยราชการอื่นๆ ซึ่งเป็นมาอย่างยาวนาน อยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นแผ่นดินไทยตามสนธิสัญญาที่ได้ทำไว้กับฝรั่งเศส และกัมพูชาก็ไม่เคยตั้งคำถามกับเรา ขอให้สบายใจได้
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลาย มีผู้เกี่ยวข้องเป็นอดีต รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลที่เกี่ยวข้องหลายยุคหลายสมัยออกมาพูดชัดเจนแล้ว เรื่องอธิปไตยบนเกาะกูดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อน เพียงแต่การดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้ MOU 44 เป็นเครื่องมือเพื่อหาแนวทางสันติ ให้ได้ข้อตกลง ไม่ใช้อาวุธเข้ากระทำต่อกัน
นอกจากนี้ เกาะกูดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ต้องเข้าดูแลเพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวสะดุด ให้ความมั่นใจนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศและประชาชนในพื้นที่
ส่วนการข้อสังเกตเรื่องสัมปทานพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ครอบครัว นายทักษิณ ชินวัตร กับ ครอบครัวสมเด็จ ฮุนเซน นั้น นายภูมิธรรม บอกว่า ที่ผ่านมาอยากให้เป็นบทเรียน เพราะพูดในเรื่องที่จินตนาการ ซึ่งยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร แต่มีส่วนที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อยากให้ฟังข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง แล้วค่อยมาวิจารณ์ อย่ากลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคง และความเชื่อมั่นของประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ควรจะพูดให้อยู่บนพื้นฐานความเข้าใจ อย่างกรณี นายสมชัย ศรีสิทธิยากร ที่ออกมาวิจารณ์นายกรัฐมนตรี ถ้าไปดูจะเข้าใจว่า ในสนธิสัญญาเรื่องเกาะกูด และ MOU 44 เป็นเรื่องที่ตกลงกันสองรัฐ ซึ่งมีวิทยานิพนธ์ได้พูดเรื่องนี้ชัดเจน สนธิสัญญาและ MOU มีความแตกต่างกัน การใช้ภูมิความรู้ของตัวเองที่อาจไม่มีความเข้าใจ แล้วมาวิพากษ์วิจารณ์ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ไม่เป็นผลดีต่อประเทศทั้งหมด
"ตอนนี้กระแสทางโซเชียลลดลงแล้ว อยากให้คำนึงถึงข้อเท็จจริง รัฐบาลนี้ไม่ได้กลัวการวิพากษ์วิจารณ์ แต่อยากให้สอดรับกับความเป็นจริง ปัจจุบันการดำเนินงานในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลไทยกับประเทศต่างๆทั่วโลก ก็เป็นไปด้วยดี มีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ในหลักการ ไม่เคยละเมิดหลักการที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ตรงนี้ไม่มีปัญหา"
ส่วนความเคลื่อนไหวของ กลุ่ม คปท. ที่เดินทางไปพื้นที่เกาะกูดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนนั้น มองว่า เขาอาจจะเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นฐานที่เข้าใจผิด เมื่อข้อมูลข้อเท็จจริงปรากฏเชื่อว่าวิญญูชนทั้งหลายควรจะเข้าใจได้ว่า หากไม่ใช่สิ่งที่เป็นประเด็น ก็ควรไม่ควรหยิบมา เพราะกระทบความเชื่อมั่นของประเทศมากกว่า ก็หวังว่าจะเข้าใจและตัดสินใจบนพื้นฐานที่เหมาะสม
สำหรับวันนี้ นายภูมิธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงกลาโหม แด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาถ้วนไตรมาส โดยมี ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ และนายทหาร ชั้นผู้ใหญ่ในสังกัดกระทรวงกลาโหม ร่วมในพิธี
พระกฐินพระราชทาน คือ กฐินที่พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน คณะบุคคล หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง นำไปถวายแด่พระสงฆ์ ที่จำพรรษาถ้วนไตรมาสในพระอารามหลวงต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร เพื่ออนุรักษ์ประเพณีอันเนื่องด้วยพระพุทธศาสนา
สำหรับวัดชินวราราม เป็นวัดเก่าแก่และเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชั้นวรวิหาร เดิมชื่อวัดมะขามใต้ บริเวณรอบพระอารามกว้างขวาง ในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องทศชาติชาดก ที่งดงาม พร้อมคำบรรยายเป็นโคลงสี่สุภาพเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้าสิบทิศ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ โบสถ์พระพุทธชินวร (หลวงพ่อทองคำ) สมัยสุโขทัย อัญเชิญมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.2546 พระวิหาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สร้างเมื่อ พ.ศ.2460 พระตำหนักชินวรสิริวัฒน์ ที่ประทับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ พ.ศ.2475 ตำหนักเจ้าแม่กวนอิม ริมน้ำ สร้างเมื่อ พ.ศ.2456 มณฑปใหม่ที่สร้างขึ้นจากโครงสร้างเดิมที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2472 ภายในมณฑปนี้ยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองเพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ด้วย ปัจจุบันมี พระราชสิริวัชรรังษี (ชำนาญ อุตฺตมปญฺโญ) เป็นเจ้าอาวาส