7 พฤศจิกายน 2567 "นายไพบูลย์ นิติตะวัน" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรค สั่งการให้ "พรรคพลังประชารัฐ" ผลักดันนโยบาย การ"ยกเลิก MOU2544" โดยถึงแม้ว่า "พล.อ.ประวิตร" จะเคยเป็นประธานคณะเจรจาฯ ตามกรอบ "MOU2544" แต่ในขณะนั้น ท่านไม่ทราบมาก่อนว่า "MOU2544" จะมีปัญหาสำคัญทางกฏหมาย จนกระทั่งในเดือนมิถุนายนปีนี้ ได้ไปเรียนให้ "พล.อ.ประวิตร" ทราบว่า ได้ใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเหตุที่ตรวจพบว่า "MOU2544" มีปัญหาสำคัญทางกฏหมายอย่างน้อย 2 ประการ
โดยประการที่ 1 การที่ฝ่ายกัมพูชาได้ลากเส้นไหล่ทวีปของประเทศกัมพูชาเริ่มจากหลักหมุดที่ 73 จุดแบ่งดินแดนทางบกของไทย-กัมพูชา ลากเส้นไหล่ทวีปตัดตรงมาทางทิศตะวันตกผ่านกลางเกาะกูดที่เป็นดินแดนของไทย ตัดเส้นตรงเลยเกาะกูดไปทางอ่าวไทยตอนใน การกระทำของฝ่ายกัมพูชาเป็นการลากเส้นไหล่ทวีปที่ผิดกฏหมายทะเลระหว่างประเทศอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้เส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ลากต่อลงมาทางทิศใต้ เป็นเส้นไหล่ทวีปที่ผิดกฏหมายทะเลระหว่างประเทศไปด้วย ทำให้กินพื้นที่อธิปไตยทางทะเลของไทยไป 26,000 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 16 ล้านไร่ แต่ "MOU2544" ไปรับรองเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาดังกล่าวเป็นเส้นถูกต้องที่นำมาใช้อ้างสิทธิกับไทยว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนเพื่อเจรจาแบ่งทรัพยากรทางทะเลของไทย ให้ประเทศกัมพูชาฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์
"นายไพบูลย์" กล่าวต่อว่า ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์ในงานเดินเนอร์ทอล์ค ระบุว่า "อีกส่วนหนึ่งที่อดพูดไม่ได้ เรื่องของเขตทับซ้อนทางทะเล ความจริงเขตทับซ้อนทางทะเลนี่ มันไม่ใช่เป็นเรื่องเส้นเขตแดนหลัก มันก็คือว่า ประเทศเราอยู่ตรงนี้มีไหล่ทวีปอยู่ตรงนี้ ลากไป 200 ไมล์ทะเล อันนี้ตามหลักกฎหมายสากลประเทศเพื่อนบ้าน สมมุติกัมพูชา ไหล่ทวีปอยู่ตรงนู้นลากมา200 ไมล์ทะเล เกยกันตรงไหน เราถือว่าเป็นเขตทับซ้อน เขตทับซ้อนตรงนั้น ถ้ามีทรัพยากรอยู่ ก็ถือว่าแบ่งคนละ 50“ ดังนั้นหากรัฐบาลไปดำเนินเจรจาตาม "MOU2544" แบ่งผลประโยชน์พลังงานธรรมชาติทางทะเลให้ฝ่ายกัมพูชา 50 เปอร์เซ็นต์ ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร ชี้แนะรัฐบาลไว้ อาจเข้าข่ายกระทำผิดทั้งกฏหมายทะเลระหว่างประเทศและกฏหมายภายในประเทศ เพราะเป็นการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทย
และประการที่ 2 ได้พบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่า "MOU2544" มีสถานะเป็นหนังสือสัญญามีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ตามบรรทัดฐานคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 11/2542 คำวินิจฉัยที่ 33/2543 และคำวินิจฉัยที่ 6-7/2551 เมื่อ"MOU2544" มีสถานะเป็นหนังสือสัญญาจึงต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาตรา 224 ปี 2550 มาตรา 190 และปี 2560 มาตรา 178 แต่ปรากฏว่า "MOU2544" ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบ "MOU2544" จึงเป็นหนังสือสัญญาที่ทำขึ้นโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย มีผลให้ "MOU2544" เป็นบทบัญญัติใดหรือการกระทำใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา5
และมีผลให้"MOU2544" ตกเป็นโมฆะทั้งฉบับตั้งแต่เริ่มแรก และมีผลในทางกฎหมาย ไม่ผูกพันรัฐภาคีทั้งสอง ตามหลักการเรื่อง "ความไม่สมบูรณ์แห่งสนธิสัญญา" (Invalidity of Treaties) ซึ่งบัญญัติไว้ในอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969
ดังนั้นเมื่อ "MOU2544" มีสถานะเป็นหนังสือสัญญาที่ทำขึ้นโดยขัดรัฐธรรมนูญ ตกเป็นโมฆะ ใช้บังคับไม่ได้ การที่รัฐบาลปัจจุบันหากนำ "MOU2544" ไปดำเนินการแบ่งทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลให้กับกัมพูชาต่อไป ในขณะนี้ทั้งที่รู้หรือควรรู้ ว่าอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ มีข้อควรระวังว่า อาจถูกฟ้องว่าเข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ
"พล.อ.ประวิตร กำชับกรรมการบริหารพรรคและ สส. ของพรรคทุกคน ให้ร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินนโยบายยกเลิก "MOU2544" ให้ได้ เพื่อปกป้องเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยพื้นที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร (16 ล้านไร่) และผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติ มูลค่า 20 ล้านล้านบาทของไทยในทะเลอ่าวไทยที่เป็นของไทยทั้งหมดตามกฏหมายทะเลระหว่างประเทศ" นายไพบูลย์ กล่าว