6 พฤศจิกายน 2567 "นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ ภายหลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ได้ 267 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ ว่า ถึงแม้ผลการเลือกตั้งจะออกมายังไม่เป็นทางการ แต่ขนาดนี้สามารถที่จะสรุปได้ว่า"นายโดนัลด์ ทรัมป์" จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง รวมถึง"นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความแสดงความ ยินดีกับ"นายโดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไปแล้ว
ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยทำงานร่วมกันกับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และอย่างที่ตนได้เคยให้สัมภาษณ์ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รวมถึงไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำของทุกประเทศ ประเทศไทยก็พร้อมที่จะดำเนินความสัมพันธ์และร่วมมือกับทุกประเทศ เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ประเทศไทยพร้อมจะ เสริมสร้างมีความร่วมมือกับสหรัฐฯ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาเป็นระยะเวลาอันช้านาน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เป็นความสัมพันธ์ในลักษณะพิเศษ มีความตกลงร่วมกันมาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นใครจะมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือเป็นผู้นำก็เชื่อมั่นว่าการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จะเป็นไปอย่างเข้มข้นและมีความร่วมมือกันอย่างดีจากประวัติความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างช้านาน
ส่วนจะส่งผลอย่างไรในมิติทางเศรษฐกิจ และมติเชิงภูมิรัฐศาสตร์ "นายมาริษ" กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาจะมีนโยบายเช่นไรทั้งเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ โดยไทยได้วางเป้าหมายที่จะดำเนินความสัมพันธ์อย่างเข้มแข็งระหว่างไทยกับสหรัฐฯ
ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทยพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกัน รวมถึงส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนการทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของไทยและผู้ประกอบการของสหรัฐฯ ตนเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์อันดีจะส่งผลกับประชาชนทั้งสองประเทศทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจร่วมกันให้เป็นไปอย่างยั่งยืน
คลิป>>> รมว.ต่างประเทศ เปิดเผย จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา