เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง)
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยถึงแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2567 และ 2568 หลังสิ้นสุดฤดูฝนของปี 2567 แล้วว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ หรือ SWOC กรมชลประทาน ได้เตรียมแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2567/68 หลังสิ้นสุดฤดูฝนของปี 2567 ไว้แล้ว โดยกรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพ มีการติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำท่า เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ควบคู่ไปกับการเก็บกักเพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งนี้ได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้เมื่อสิ้นสุดฤดูฝน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันทั้งสิ้น 44,250 ล้านลูกบาศก์เมตร
การจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2567/68 (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึง 30 เมษายน 2568) ตามปริมาณน้ำต้นทุน เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในทุกกิจกรรมตามลำดับความสำคัญ โดยแบ่งเป็นน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร อุตสาหกรรม และอื่น ๆ รวมทั้งประเทศประมาณ 29,170 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งสำรองไว้ใช้ต้นฤดูฝนหน้าเดือนพฤษภาคม ถึงสิงหาคม 2568 อีกประมาณ 15,080 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอตามแผนที่กำหนดไว้
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นอกจากนี้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้กำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการรองรับฤดูแล้งปี 2567/68 ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช.เห็นชอบ ด้วยการคาดการณ์และป้องกันพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ วางแผนจัดสรรน้ำและกำหนดพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำเพื่อลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วน รวมไปถึงการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำตลอดในช่วงฤดูแล้ง เสริมความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำให้ชุมชน ตลอดจนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล