ที่เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด พร้อมรับฟังบรรยายสรุปถึงการปฏิบัติงานของหน่วย และการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล และประสิทธิภาพของหน่วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลต่อไป โดยมี พล.ร.ต.ชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ให้การต้อนรับ
ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทกับกำลังพลของหน่วย ตอนหนึ่ง ว่า ขอบคุณกำลังพลทุกนายที่เสียสละ ต้องห่างจากบ้าน จากครอบครัวที่รักมาประจำการอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ให้คงอยู่คู่กับประเทศตลอดไป พร้อมขอให้ผู้บังคับหน่วยดูแลกำลังพล ในทุกระดับชั้นในเรื่องของความเป็นอยู่ สิทธิประโยชน์ของทุกคนให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง หากมีข้อขัดข้องสิ่งใดให้รายงานขึ้นมาผ่านสายงานผู้บังคับบัญชาได้ทันที ตนเองพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหาของหน่วย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกมิติ
จากนั้น ผู้การทหารเรือได้ให้ สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้มาดูกำลังพลว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร รวมถึงดูความพร้อมของยุทธโธปกรณ์ ในการเฝ้าตรวจ และการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบส่วนกลาง หรือหน่วยควบคุมที่เชื่อมโยงสู่ศูนย์กลางของกองทัพเรือ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเห็นภาพพื้นที่ปฏิบัติการในพื้นที่ที่เราดูแล โดยได้ให้นโยบายไปว่า ทำอย่างไรให้มีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันความพร้อมถูกยกระดับขึ้นมาจากเดิม ทั้งเครื่องมือและคนให้มีพร้อมในทุกจุด แต่สิ่งที่ยังติดขัดคือเทคโนโลยี ระบบสนับสนุนต่างๆ เช่นระบบไฟ น้ำ เป็นสิ่งจำเป็น ก็ต้องทำให้เพียงพอกับความต้องการของกำลังพล
สำหรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่เกาะกูด ของกองทัพเรือ มีหน่วยที่อยู่บนเกาะ คือ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด และนาวิกโยธิน ซึ่งทั้ง 2 หน่วย ได้ทำงานร่วมกัน เพื่อดูแลในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อ รวมถึงมีเรดาร์ดูแลพื้นที่ในทะเล เพื่อส่งข้อมูลให้ส่วนกลางในภาพรวม พร้อมยืนยันว่ากองทัพเรือมีความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย ประชาชนสามารถทำมาหากินในพื้นที่นี้ได้อย่างสงบสุข
ส่วนกรณี MOU 2544 นโยบายรัฐบาลคือเจรจาผลประโยชน์ทางทะเล ทำให้กองทัพเรือ ลำบากใจหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ บอกว่า หน้าที่ของกองทัพเรือ คือการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลไทยได้ประกาศเขต เอาไว้แล้วเมื่อปี 2516 เราจะดูแลพื้นที่ตามเขตเเดนที่รัฐบาลประกาศไว้ ส่วนความคืบหน้าหรือข้อตกลง เป็นเรื่องของรัฐบาล เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับประชาชน
“ขอให้มั่นใจกองทัพเรือดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่ ยืนยันความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ พื้นที่อ้างสิทธ์ทับซ้อน ไม่มีความขัดแย้งใดๆ”
เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ได้ย้ำให้หน่วยมีความพร้อมที่จะดูแลพื้นที่ ตนจึงต้องลงมาดูแล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายว่ากองทัพเรือต้องพร้อมที่จะดูแลพื้นที่ที่อยู่ในทะเลให้ได้ 100% เพราะฉะนั้นอะไรที่ติดขัดก็จะเร่งแก้ไขให้สำเร็จ ซึ่งหลายเรื่องได้แก้ปัญหาไปแล้ว เหลือแค่บางเรื่องที่จะต้องค่อยๆทำ เพราะต้องใช้งบประมาณ
เมื่อถามว่า กลุ่มที่มีการเรียกร้องอาจมีการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ เกรงว่าจะมีปัญหาหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทัพเรือจะดูแลพื้นที่ตรงนี้ได้ ไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนฝั่ง และบนเกาะมีความมั่นใจกับกองทัพเรืออยู่แล้ว
“พื้นที่ของเรามีความสงบ ปลอดภัย ชาวประมงสามารถทำมาหากินได้ปกติ ขณะที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีความเข้าใจ และก็หากินในพื้นที่ของตัวเอง ส่วนเราก็ทำมาหากินในพื้นที่ของเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ”
เมื่อถามว่า พื้นที่เกาะกูดได้ถูกเชื่อมโยงเป็นประเด็นทางการเมือง กองทัพเรือได้กำชับกำลังพลอย่างไร ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเรา เรามีความสัมพันธ์กับพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างดี ซึ่งจากการรับฟังบรรยายสรุปของหน่วยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เรือประมงที่ทำมาหากินอย่างสุจริต ไม่เคยรุกล้ำเข้าพื้นที่มาเลย ยกเว้นเรือที่ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี แต่ก็สามารถจับกุมได้ตามอำนาจหน้าที่ สำหรับประชาชนที่ทำมาหากินสุจริต ในทะเลทั้งสองฝั่งนั้น ทุกคนมีความสุข ไม่มีใครเดือดร้อน และประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ยืนยันหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่มีความสัมพันธ์ที่ดี สามารถพูดคุยกันโดยไม่มีข้อขัดแย้งอะไรต่อกัน