ว่าไปแล้ว นายกฯ" แพทองธาร ชินวัตร" เข้ามาบริหารประเทศ ได้สองเดือนกว่าๆ เป็นเวลาที่สตรีวัย 38 ปี ต้องเผชิญเรื่องหนักๆ บทบาทความเป็นผู้นำประเทศที่ต้องเข้าไปรับผิดชอบดูแลการบริหารราชการเเผ่นดิน ชนิดที่ไม่อาจนั่งสบายใจบนหอคอยงาช้างได้เลย
เริ่มเข้ารับตำแหน่ง "สร.1"คนปัจจุบันต้องสะสางงานค้างเก่าของ"เศรษฐา ทวีสิน" อดีตนายกฯของพรรคเพื่อไทยที่ยังทำไม่สำเร็จตามสัญญาหาเสียงหลายวาระ
นั่นคือ "นโยบายแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต" จนวันนี้มาปรับเปลี่ยน เป็นแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนหรือ"บัตรลุงตู่"ให้กับกลุ่มเปราะบางก่อนเป็นลำดับแรก และยังคงต้องตามเคลียร์เฟสสองว่า จะแจกได้เมื่อไหร่ เเละจะเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมหรือปรับเงื่อนไขหรือไม่ ตรงนี้เป็นการบ้านค้างเก่าที่รอคลี่คลายก่อนจบสิ้นปีนี้หรือไปร้องเพลงรอต่อปีหน้า
ต่อมา นายกฯ"แพทองธาร" ได้ประกาศตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งว่าจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เเต่พบว่านายกฯต้องเผชิญสถานการณ์ภัยพิบัติ ฝนตกหนัก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง และยังมาเจอปริมาณน้ำโขงเพิ่มสูงเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดภาคอีสานซ้ำเข้าไปอีก
ภัยธรรมชาตินี้เกิดขึ้นชนิดที่นายกฯมือใหม่แทบตั้งตัวไม่ทัน ว่าจะเริ่มอะไรก่อนหลัง/จะจัดวางมอบหมายภารกิจ รมต.ไปดูเเลอะไรบ้าง/หรือประชุมด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/การจัดงบประมาณเยียวยาฟื้นฟู ต่างๆนานาที่เป็นวาระด่วนประดังประเดเข้ามาให้สร.1รับมือ
นอกจากภัยพิบัติเเล้ว สถานการณ์นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่กับครูนักเรียนจ.อุทัยธานี จากเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ที่ทำให้สร.1ในฐานะคุณเเม่ลูกสองรุดไปที่เกิดเหตุเเละร่ำไห้ทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้า เเต่ถึงวันนี้ รัฐบาลก็กระทำเหมือนเดิมคือกำลังถอดบทเรียน และคงถอดอยู่ ถอดต่อไป ต่อการกำหนดมาตราการป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำ
หันไปมองครม.ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคมที่ได้รับมอบหมายไปดำเนินการก็ดูจะเงียบๆไปในวาระนี้เพราะตอนนี้ยังไม่มีการรายงานความคืบหน้า ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นปมค้างคาใจผู้คนต่อไปกับผลการตรวจสอบต่างๆ
ประเด็นร้อนที่กลบกระเเสการเมืองเเละข่าวอื่นๆไปทันทีในตอนนี้คือกรณี "ธุรกิจดิไอคอน" ที่กำลังโยงมาถึงฝ่ายการเมือง เพราะตัวละครต่างๆที่ "บอสพอล" อ้างในคลิปเสียง ว่าเป็นเทวดาบ้าง เป็น"บิ๊กการเมือง"บ้างเเละอินฟูลเอนเซอร์/นักร้อง/ทนายความหลายคนให้ข้อมูลนี้เเบบ รายวันจนประเด็นขยายวงเรื่อยๆ
ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องตามสอบถามนายกฯทุกสามเวลาหลังอาหาร แม้แต่เมื่อสองวันก่อนจนนายกฯแพทองธาร ต้องบอกมีเสียงแหบแห้ง ขอตัวไปพบแพทย์ก่อน แต่สำหรับวันนี้ดูจะแข็งแรงขึ้นแล้ว ภายหลังฉีดยาให้น้ำเกลือ ขอลุยต่อลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดทันที
...สองเดือนกับการรับศึก สารพัดปัญหาของบ้านเมือง ที่มีทั้งเคลียร์ได้และยังเคลียร์ไม่จบ....
แต่ความจริงนั้น....ยังมีระเบิดเวลาบนสนามการเมืองอีกสามลูกใหญ่ ที่เตรียมกระหน่ำซ้ำ เข้าใส่รัฐบาล เเละรอเวลานายกฯ ถอดรหัส ปลดชนวน เพราะถ้าสร.1ถอดรหัสผิดย่อมมีผลสะเทือนรัฐบาลอย่างใหญ่หลวง
ณ ขณะนี้ ยังมองไม่ชัด ว่า ระเบิดเวลาสามลูกนี้ "แพทองธาร ชินวัตร" จะปลดชนวนให้เกิดความสงบได้หรือไม่ เพราะไทม์ไลน์มันกระชับพื้นที่ให้สร.1เข้ามุมอับมาเรื่อยๆ แต่ละเรื่องกระทบความมั่นคงของประเทศ
ไล่เรียงดู 3 ระเบิดเวลาลูกใหญ่ ขย่มรัฐบาล! ดังนี้
1. "ปมเลือกประธานบอร์ดแบงค์ชาติ" ที่ติดโรคเลื่อน มานาน 3 เดือน แต่สำหรับวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้น่าจะได้ข้อสรุป?!?
จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำให้บรรดาอดีตผู้ว่าฯธปท. ผนึก 227 นักวิชาการ ล่ารายชื่อคัดค้านการส่งคนการเมืองคือ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตรองนายกฯรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปนั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพราะการเคลื่อนไหวครั้งนี้บอกเลยไม่ธรรมดา เเละจะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ หากภาพปรากฎชัดการเมืองเข้ามาแทรกแซงระบบการเงินการคลังประเทศผ่านองค์กรแบงก์ชาติ
"เรื่องนี้มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างปฏิเสธไม่ได้"
2. ปมปัญหาการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนแหล่งพลังงานทางทะเล ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณเกาะกูด ที่มีความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ ออกมาขย่มแบบ รัวๆ ให้ยกเลิก บันทึกข้อตกลง หรือ "MOU 2544"
ไม่เพียงพรรคพปชร.ออกมาขย่มวาระนี้ หากแต่เครือข่ายภาคประชาชนจากนอกทำเนียบรัฐบาล หรือจตุพร พรหมพันธุ์ รอเวลาเคลื่อนทันทีที่นายกฯ ทำการเจรจากับรัฐบาลนายพลฮุน มาเนต ผู้นำกัมพูชาเเต่ไม่ว่าจะออกมาแนวทางใดแนวทางหนึ่งที่อาจทำให้เห็นภาพว่าไทยเสียเปรียบกัมพูชา จึงเป็นจังหวะก้าวที่นายกฯวัย 38 ปี จะต้องถอดรหัสระเบิดเวลาลูกที่สองนี้อย่างระมัดระวังถึงที่สุด
3. มติครม.ล่าสุด กรณีการให้สัญชาติไทยเเก่ผู้อพยพต่างชาติ /บุคคลไร้สัญชาติ/กลุ่มชาติพันธุ์/คนไทยไร้สัญชาติรวม 4.8 แสนราย เชื่อเหลือเกินว่า จะกลายเป็นปัญหาบานปลายในเร็วๆนี้ นั่นคือ ท่ามกลางการจับตามองของฝ่ายค้านว่าวาระนี้จะมีผลต่อความมั่นคงของประเทศอย่างไร เพราะอย่าลืมว่าเเม้จะมีการเรียกร้องสิทธิในฐานะคนไทยให้คนกลุ่มนีัมาหลายสิบปี เเละหน่วยงานรัฐก็ดำเนินการมาตลอด เเต่ผู้อพยพภัยสงครามในบ้านเกิดทางภาคตะวันตกของไทยจำนวนมากในค่ายผู้อพยพเเนวชายเเดนนั้น เพราะมีหลายคนที่เพื่อนบ้านขอให้ไทยส่งกลับ หากวันนี้ไทยให้สถานะบุคคลว่าพวกเขามีสัญชาติไทย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะมีผลเช่นใดในวันข้างหน้าเพราะอย่าลืมว่าไืทยพึ่งพิงพลังงานเเละเเรงงานข้ามชาติจากเพื่อนบ้านเเบบปฏิเสธไม่ได้
ฉะนั้น หลังการให้น้ำเกลือมาแล้วนายกฯน่ามีพลังเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมตัวลุยศึกหนักที่รออยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะระเบิดเวลา 3 ลูกใหญ่ข้างต้นก็นับว่าหนักหนาเเล้ว หากบวกระเบิดการเมืองอื่นๆที่ยื่นเข้ากระบวนการยุติธรรมไปเเล้วนับว่าสร.1จะเดินอย่างไรกับการเข้าสู่คิลลิ่งโซนการเมือง
ดังนั้น ข้อเเนะนำดีที่สุดในตอนนี้คือรัฐบาลต้องรีบชี้แจงกับการถอดชนวนระเบิดเวลาสามลูกล่าสุดนี้ก่อน โดยเร่งทำความเข้าใจประชาชน
ปล่อยช้าไปมีแต่บานปลาย ไม่เป็นผลดีกับคะแนนนิยมรัฐบาล และอาจทำให้"แพทองธาร"ได้พักผ่อนเเบบยาวๆ