svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สภาฯ รับหลักการ "ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง" เปิดสาระสำคัญ "คุมค่าโดยสาร"

สภาฯมติเอกฉันท์ รับหลักการ "ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง" 3 ฉบับ ใช้ "ร่าง ครม."เป็นหลัก เปิดสาระสำคัญ ตั้งบอร์ด นายกฯประธาน คุมเบ็ดเสร็จ รวมถึงราคาค่าโดยสาร ประชุมนัดแรก 1 พ.ย.นี้

30 ตุลาคม 2567  ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี "นายภารดร ปริศนานันทกุล" รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ขนส่งทางราง ฉบับที่ พ.ศ. ​โดยเป็นการพิจารณาต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งที่ประชุมได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นเสร็จแล้วและอยู่ในขั้นตอนการลงมติ โดยมีทั้งหมด 3 ร่าง คือ1.ร่างของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นผู้เสนอ 2. ร่างของ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เป็นผู้เสนอ และ 3.ร่างของ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะเป็นผู้เสนอ 

โดย"นางมนพร เจริญศรี" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขอให้ที่ประชุมรับหลัการทั้ง 3 ร่าง โดยลงมติในคราวเดียว และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่วมกันพิจารณาทั้ง 3 ร่าง โดยใช้ร่างของ ครม.เป็นร่างหลัก
 
จากนั้นที่ประชุมลงมติรับหลักการทั้ง 3 ร่าง ด้วยคะแนน  406  เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี ไม่ลงคะแนน 4 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 31 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างของ ครม.เป็นหลักในการพิจารณา 

ทั้งนี้ "นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานวิปฝ่ายค้าน ได้เสนอว่า เนื่องจากร่างของ "นายสุรเชษฐ์" เป็นร่างที่ใกล้เคียงกับร่างที่สภาฯชุดที่ 25 ได้พิจารณาเสร็จแล้วมากที่สุด จึงขอให้ใช้ร่างของนายสุรเชษฐ์​เป็นร่างหลัก 
  
ทำให้ที่ประชุมต้องลงมติว่าจะใช้ร่างใดเป็นร่างหลัก โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 262 เสียงให้ใช้ร่างของ ครม. เป็นหลัก และจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการฯ นัดแรกในวันที่ 1 พ.ย.นี้เวลา 10.00 น.

สำหรับ สาระสำคัญของร่างกฎหมายขนส่งทางราง ที่เสนอโดยครม.นั้น  ได้มีการกำหนดให้มี "คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง" ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการขนส่งทางราง โครงการของหน่วยงานของรัฐในการประกอบกิจการขนส่งทางราง และแนวทางในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นที่ได้รับประโยชน์จากการประกอบกิจการขนส่งทางราง กำหนดให้มีการจัดทำโครงการขนส่งทางรางประกอบด้วยด้านต่างๆได้แก่

สภาฯ รับหลักการ \"ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง\" เปิดสาระสำคัญ \"คุมค่าโดยสาร\"

1.การจัดทำแผนพัฒนาการขนส่งทางรางเพื่อประโยชน์ในการกำหนดแนวเส้นทางเพื่อประกอบการจัดทำแผนพัฒนาการขนส่งทางราง

2.การเสนอโครงการการขนส่งทางรางโดยแยกเป็นกรณีรถไฟและรถไฟฟ้าให้จัดทำรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการและรายงานผลการศึกษาวิเคราะห์โครงการเสนอต่อคณะกรรมการ และกรณีรถรางให้จัดทำรายงานผลการศึกษาวิเคราะห์โครงการเสนอต่อผู้มีอำนาจกำกับดูแลตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นก่อนเสนอรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบแล้วเสนอต่อคณะกรรมการ โดยโครงการใดที่มีเอกชนร่วมลงทุน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

และ 3.การดำเนินการโครงการการขนส่งทางราง โดยกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือก่อให้เกิดภาระในอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินการตามแผนพัฒนาการขนส่งทางราง กำหนดเขตระบบรถขนส่งทางรางและเขตปลอดภัยระบบขนส่งทางรางโดยกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นในเขตปลอดภัยระบบรถขนส่งทางราง รวมทั้งกำหนดข้อห้ามกระทำการใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งทางราง

นอกจากนี้มีอำนาจในการกำหนดประเภทของใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง มี 3 ประเภท

ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่ง ใบอนุญาตประกอบกิจการเดินรถขนส่งทางราง และใบอนุญาตประกอบกิจการเพื่อการขนส่งและการเดินรถขนส่งทางราง กำหนดหน้าที่ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งทางรางในการจัดให้มีประกันความเสียหาย หน้าที่ในการแจ้งเหตุที่จะทำให้การเดินรถขนส่งทางรางหยุดชะงัก เหตุฉุกเฉินหรืออุปสรรคต่อการขนส่งทางราง กำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเวลาการเดินรถขนส่งทางราง และไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งที่เกี่ยวกับการจัดสรรเวลาการเดินรถขนส่งทางราง กำหนดให้

นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของการขนส่งทางรางมีหน้าที่และอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การสอบสวนอุบัติเหตุ อุบัติเหตุร้ายแรง และอุบัติการณ์ กำหนดให้มีให้ผู้ตรวจการขนส่งทางรางมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบการประกอบกิจการขนส่งทางราง กำหนดให้รถขนส่ง ทางรางที่จะให้ในการประกอบกิจการขนส่งทางรางต้องจดทะเบียนต่อนายทะเบียนและกำหนดประเภทรถขนส่งทางรางที่ไม่ต้องจดทะเบียน

ได้แก่ พระราชพาหนะและรถขนส่งทางทหาร กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการโดยเฉพาะผู้ทุพลภาพ ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และเด็กด้วย

ส่องความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้งที่ กระทรวงคมนาคม ได้จัดทำร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง เข้าสู่ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่  8 ตุลาคม มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความเห็นประกอบ ดังนี้

กระทรวงการคลัง ได้ให้ความเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติฯ มีหลักการสนับสนุนให้มีการบริหารจัดการการขนส่งทางราง การควบคุม การกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งทางรางอย่างเป็นระบบ การยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งทางรางของประเทศ เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการสะดวกและปลอดภัยในการใช้บริการขนส่งทางราง รวมถึงช่วยเพิ่มศักยภาพการจากโครงสร้างพื้นฐานทางรางของประเทศ

โดยมีการแยกบทบาทให้ชัดเจนระหว่างหน่วยงานกำหนดนโยบาย (Policy Maker) หน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) และหน่วยงานปฏิบัติ (Operator) ตามแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลที่ดีในการกำกับดูแล ป้องกันการขัดแย้ง ของผลประโยชน์ (Conflict of Interests) และก่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียม

ด้านสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ความเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ จะทำให้กรมการขนส่งทางรางมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับกิจการขนส่งทางรางตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ของหน่วยงาน

อย่างไรก็ดี สศช.มีความเห็นเพิ่มเติมเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม พิจารณากำหนดแนวทางการบูรณาการยุทธศาสตร์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนการกำกับดูแลกิจการทั้งทางถนน ทางอากาศ ทางราง และทางน้ำ เพื่อให้เกิดการขนส่งเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันการกำกับกิจการขนส่งแต่ละรูปแบบได้ถูกกำหนดให้มีคณะกรรมการระดับนโยบายในแต่ละด้านโดยที่ยังไม่มีกลไกที่จะทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน

นอกจากนี้ยังเห็นควรให้กรมการขนส่งทางรางพิจารณาการจัดลำดับความสำคัญของกฎหมายลำดับรองโดยเบื้องต้นเห็นควรให้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มบทบาทของเอกชนในกิจการระบบขนส่งทางรางเพื่อให้เกิดประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกระบบรางได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ

ขณะที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ถือว่ามีประโยชน์กับการพัฒนาระบบรางของไทย โดยได้กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางรางที่มีและอำนาจในการเสนอนโยบายและแผนพัฒนาการขนส่งทางราง แนวทางในการเชื่อมต่อไปยังการขนส่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอต่อครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการของหน่วยงานที่เป็นเจ้าของโครงการในการประกอบกิจการขนส่งทาง

"และกำหนดอัตราขั้นสูงของของค่าโดยสาร ค่าขนส่ง การใช้ประโยชน์จากรางเพื่อการขนส่ง โดยให้กรมการขนส่งทางรางรับผิดชอบงานธุรการของการกำหนดบทบัญญัติเดียวกับการจัดทำโครงการขนส่งทางราง เขตระบบขนส่งทางรางและเขตขนส่งทางราง การขออนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง และให้ผู้ตรวจการขนส่งทางรางมีหน้าที่อำนาจตรวจสอบการประกอบกิจการ การจดดทะเบียนรถขนส่งทางราง การคุ้มครองผู้โดยสารและผู้ใช้จนการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการขนส่งทางราง การบริการการขนส่งทางรางอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการพัฒนาขนส่งรูปแบแบบอื่นๆให้เป็นโครงข่ายเดียวกันอย่างสมบูรณ์และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันของตลาดในประเทศ"

อย่างไรก็ตามมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นใน 3 ปีแรกจำนวนประมาณ 427 ล้านบาท ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาระงบประมาณในอนาคต เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางรางเตรียมความพร้อมให้ครบถ้วนทุกมิติ โดยคำนึงถึงภารกิจความจำเป็น ความสามารถในการดำเนินงานให้คุ้มค่าใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น โดยสามารถเสนอของบประมาณได้ในปีต่อๆไป