นายกฯ เปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดสะพัด 1.1 แสนล้านบาท
นายกฯ เปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส พุ่งเป้ากลุ่ม SMEs คาดสะพัด 1.1 แสนล้านบาท - ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจไทยแข็งแรง
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างที่ผ่านมา รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านการเติมเงิน 145,000 ล้านบาทเข้าระบบที่มีการแจกเงินสด 10,000 บาทถึงมือประชาชนผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับเงินเป็นกลุ่มแรก ทำให้รัฐบาลภาคภูมิใจ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาล จะยังกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปผ่านโครงการต่าง ๆ ในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน ซึ่งการต่อยอดการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อจากนี้ จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายเล็ก ที่มี 95% ของผู้ประกอบการทั้งหมด และเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งรัฐบาล ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว และจะสิ้นสุดในเดือนมกราคมนี้ แบ่งเป็น ''การลดตุ้นทุนให้ผู้ประกอบการรายเล็ก'' เช่น การลดค่าเช่าร้าน ค่าเช่าแผงในส่วนราชการ และเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงการลดค่าจัดส่งสินค้า ร่วมกับไปรษณีย์ไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, ''การเพิ่มพื้นที่ขายให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก'' ตามสถานที่ราชการ และสถานที่เอกชน เช่น การใช้พื้นที่ทหาร หรือลานหน้าศาลากลางแต่ละจังหวัดในการจำหน่ายสินค้า และ ''การลดค่าครองชีพประชาชน'' ผ่านการจัดมหกรรมลดราคาสินค้า โดยมีภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้า และแพล็ตฟอร์มต่าง ๆ มาเข้าร่วมลดราคาสินค้ากับรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ยังคาดหวังว่า โครงการเหล่านี้ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้กว่า 110,000 ล้านบาท พร้อมขอบคุณภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ และยืนยันว่า รัฐบาลจะยังคงมุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้แข็งแรง กลับมาเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ผ่านแผนงานทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้ประชาชนสามารถฟื้นขึ้นมา และสร้างสิ่งดี ๆ ใหักับประเทศชาติต่อไป จึงขอให้ประชาชน ได้ติดตามโครงการต่าง ๆ จากรัฐบาลต่อไป
ขณะที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมเปิดโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้น ซึ่งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ มีแนวคิดที่จะให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ที่เข้าไปตั้งจำหน่ายสินค้าได้ และประชาชนสามารถซื้อสินค้าในราคาถูก เพราะรัฐบาลอยากเห็นประชาชนมีความสุข หลังผ่านเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และรัฐบาลอยากเห็นทิศทางที่ผู้ประกอบการ เข้ามาช่วยผู้ที่เดือดร้อน และขับเคลื่อนการค้าทุกภาคส่วนไปพร้อมกัน
นายพิชัย ยังระบุด้วยว่า โครงการนี้ เป็นแนวคิดที่รัฐบาลจะดำเนินการมานานแล้ว หลังมีการจ่ายเงินสด 10,000 บาทให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง และรายได้น้อย พร้อมมั่นใจว่า การดำเนินการโครงการนี้ ช่วยจะขยาย และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยได้กว่า 100,000 ล้านบาท และจะยังมีการลงทุนขนาดใหญ่เข้ามา รวมถึงเรื่องของดาต้าเซ็นเตอร์ ที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อน หลังนายกรัฐมนตรีเดินทางร่วมการประชุม ACD SUMMIT และ ASEAN SUMMIT