13 ตุลาคม 2567 "นวลพรรณ ล่ำซำ" นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด โพสต์ข้อความ ผ่านเพจ Madam Pang - มาดามแป้ง ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ กรณีที่สังคมให้ความสนใจ ปมปัญหาธุรกิจขายตรง กับแชร์ลูกโซ่ มีความแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ มีเหตุการณ์เป็นคดีความหลายกรณีด้วยกัน หรือแม้แต่ กรณีที่ตกเป็นกระแสข่าวใหญ่อย่างเรื่อง ธุรกิจ"ดิไอคอน"
"เพจMadam Pang - มาดามแป้ง" ระบุว่า ในยุคที่มีการหลอกลวงเกิดขึ้นหลายรูปแบบ หนึ่งในวิธียอดฮิตที่มิจฉาชีพชอบใช้ก็คือการชักชวนคนไปทำ “ธุรกิจขายตรง” แต่สุดท้ายกลับกลายเป็น “แชร์ลูกโซ่” ที่นอกจากจะไม่สามารถสร้างรายได้ตามที่หวังไว้ ยังต้องเสียเงินกับสินค้าที่ไม่มีใครอยากได้อีกต่างหาก
ในวันนี้"เพจมาดามแป้ง" จึงอยากชวนทุกคนมาเข้าใจให้ชัดเจนว่า ธุรกิจขายตรงที่แท้จริงกับแชร์ลูกโซ่นั้นต่างกันอย่างไร และควรระวังอะไรบ้างหากคุณกำลังคิดจะเริ่มธุรกิจขายตรง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ธุรกิจขายตรงคืออะไร
ตามข้อมูลจากสมาคมการขายตรงไทย "ธุรกิจขายตรง" หมายถึง การขายสินค้าและบริการโดยตรงให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่อื่นๆ ผ่านตัวแทนขายหรือผู้จำหน่ายอิสระ ซึ่งอาจจะมีการขายแบบชั้นเดียวหรือหลายชั้น ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องมักจะมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ
ตัวแทนขายตรงนั้นมีสองประเภทหลักๆ คือ "ผู้จำหน่ายอิสระ" ซึ่งซื้อสินค้าแล้วนำไปขายต่อ และ "ตัวแทนขายตรง" ที่ได้รับอำนาจจากบริษัทให้เสนอขายสินค้าโดยตรงแก่ผู้บริโภค
-ขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ต่างกันอย่างไร
เพื่อให้เห็นความแตกต่างชัดเจน สมาคมการขายตรงไทยได้ระบุจุดแตกต่างสำคัญระหว่างธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องและแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นระบบที่ผิดกฎหมายไว้ ดังนี้
◾️ ค่าธรรมเนียมการสมัคร
ขายตรง: ค่าธรรมเนียมสมัครต่ำ โดยส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเอกสารฝึกอบรมและสินค้าตัวอย่าง
แชร์ลูกโซ่: ค่าธรรมเนียมสูง โดยผู้สมัครมักถูกบังคับให้จ่ายเงินซื้อสินค้าเกินความจำเป็น
◾️ การขายสินค้า และคุณภาพของสินค้า
ขายตรง: มุ่งเน้นการขายสินค้าคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
แชร์ลูกโซ่: สนใจการรับสมัครสมาชิกใหม่มากกว่าการขายสินค้า สินค้ามักมีคุณภาพต่ำและราคาสูง
◾️นโยบายคืนสินค้า และคืนเงิน
ขายตรง: มีนโยบายคืนสินค้า และคืนเงิน เพื่อรับประกันความพึงพอใจ
แชร์ลูกโซ่: ไม่มีนโยบายคืนสินค้าหรือคืนเงิน เพราะจะส่งผลให้ระบบปิรามิดที่เน้นหารายได้จากสมาชิกล่มได้
◾️ การสร้างรายได้
ขายตรง: รายได้มาจากการขายสินค้าที่มีคุณภาพ
แชร์ลูกโซ่: รายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่และการบังคับให้ซื้อสินค้า
◾️ การกักตุนสินค้า
ขายตรง: มีข้อห้ามไม่ให้ผู้ขายเก็บตุนสินค้า
แชร์ลูกโซ่: เน้นให้ผู้ขายซื้อสินค้าเก็บตุนตามระบบ
◾️ โอกาสทางธุรกิจ
ขายตรง: สร้างโอกาสให้ผู้ขายสามารถขยายธุรกิจในระยะยาว และเน้นที่ความพอใจของลูกค้า
แชร์ลูกโซ่: มุ่งเน้นการหาเงินเร็ว แต่ผู้ที่เข้าร่วมระบบในชั้นล่างมักจะเสียเงินมากกว่าทำกำไร
◾️ กฎหมาย
ขายตรง : ธุรกิจที่ถูกกฎหมาย มีการคุ้มครองผู้บริโภคและตัวแทน
แชร์ลูกโซ่: ผิดกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก
ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของกลโกงลูกโซ่ ทุกคนควรศึกษา และทำความเข้าใจธุรกิจที่กำลังจะเข้าไปลงทุนอย่างรอบคอบ โดยธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องจะมุ่งเน้นที่คุณภาพของสินค้าและความพึงพอใจของลูกค้า ขณะที่แชร์ลูกโซ่จะเน้นการชักชวนสมาชิกใหม่และผลักดันให้ซื้อสินค้าเกินความจำเป็น
*********
ธุรกิจขายตรงคืออะไร
ตามข้อมูลจากสมาคมการขายตรงไทย "ธุรกิจขายตรง" หมายถึง การขายสินค้าและบริการโดยตรงให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่อื่นๆ ผ่านตัวแทนขายหรือผู้จำหน่ายอิสระ ซึ่งอาจจะมีการขายแบบชั้นเดียวหรือหลายชั้น ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องมักจะมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ
ตัวแทนขายตรงนั้นมีสองประเภทหลักๆ คือ "ผู้จำหน่ายอิสระ" ซึ่งซื้อสินค้าแล้วนำไปขายต่อ และ "ตัวแทนขายตรง" ที่ได้รับอำนาจจากบริษัทให้เสนอขายสินค้าโดยตรงแก่ผู้บริโภค
ขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ต่างกันอย่างไร
เพื่อให้เห็นความแตกต่างชัดเจน สมาคมการขายตรงไทยได้ระบุจุดแตกต่างสำคัญระหว่างธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องและแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นระบบที่ผิดกฎหมายไว้ ดังนี้
ค่าธรรมเนียมการสมัคร
ขายตรง: ค่าธรรมเนียมสมัครต่ำ โดยส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเอกสารฝึกอบรมและสินค้าตัวอย่าง
แชร์ลูกโซ่: ค่าธรรมเนียมสูง โดยผู้สมัครมักถูกบังคับให้จ่ายเงินซื้อสินค้าเกินความจำเป็น
การขายสินค้า และคุณภาพของสินค้า
ขายตรง: มุ่งเน้นการขายสินค้าคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
แชร์ลูกโซ่: สนใจการรับสมัครสมาชิกใหม่มากกว่าการขายสินค้า สินค้ามักมีคุณภาพต่ำและราคาสูง
นโยบายคืนสินค้า และคืนเงิน
ขายตรง: มีนโยบายคืนสินค้า และคืนเงิน เพื่อรับประกันความพึงพอใจ
แชร์ลูกโซ่: ไม่มีนโยบายคืนสินค้าหรือคืนเงิน เพราะจะส่งผลให้ระบบปิรามิดที่เน้นหารายได้จากสมาชิกล่มได้
การสร้างรายได้
ขายตรง: รายได้มาจากการขายสินค้าที่มีคุณภาพ
แชร์ลูกโซ่: รายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่และการบังคับให้ซื้อสินค้า
การกักตุนสินค้า
ขายตรง: มีข้อห้ามไม่ให้ผู้ขายเก็บตุนสินค้า
แชร์ลูกโซ่: เน้นให้ผู้ขายซื้อสินค้าเก็บตุนตามระบบ
โอกาสทางธุรกิจ
ขายตรง: สร้างโอกาสให้ผู้ขายสามารถขยายธุรกิจในระยะยาว และเน้นที่ความพอใจของลูกค้า
แชร์ลูกโซ่: มุ่งเน้นการหาเงินเร็ว แต่ผู้ที่เข้าร่วมระบบในชั้นล่างมักจะเสียเงินมากกว่าทำกำไร
กฎหมาย
ขายตรง: ธุรกิจที่ถูกกฎหมาย มีการคุ้มครองผู้บริโภคและตัวแทน
แชร์ลูกโซ่: ผิดกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก
ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของกลโกงลูกโซ่ ทุกคนควรศึกษา และทำความเข้าใจธุรกิจที่กำลังจะเข้าไปลงทุนอย่างรอบคอบ โดยธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องจะมุ่งเน้นที่คุณภาพของสินค้าและความพึงพอใจของลูกค้า ขณะที่แชร์ลูกโซ่จะเน้นการชักชวนสมาชิกใหม่และผลักดันให้ซื้อสินค้าเกินความจำเป็น
ขอบคุณข้อมูล จาก เพจ Madam Pang - มาดามแป้ง
"เนชั่นทีวี" ชวนศึกษา กม.ขายตรง ได้ที่นี่ >>> คลิกเลย