นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้(11 ต.ค.) เวลา 10.00 น.ตนจะไปยื่นร้องเรียนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพฤติกรรมการเดินทางไปต่างประเทศของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในช่วงเดือนมี.ค. 3 วัน มิ.ย. 3 วัน ก.ค.และ ส.ค.อีกเดือนละ 2 วัน รวมทั้งหมด 8 วัน ซึ่งมีข้อมูลและหลักฐานพบว่า พล.อ.ประวิตร น่าจะกินหรู อยู่สบาย และน่าจะเข้าข่ายการรับทรัพย์เกินกว่า 3,000 บาท
“พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 กำหนด มิให้เจ้าพนักงานรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันใครได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่โดยอาศัยกฎหมายโดยผู้ดำรงตำแหน่ง สส.และ สว.ห้ามรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นได้จากผู้ที่ไม่ใช่ญาติ ในแต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000 บาท หากตรวจสอบแล้วพบว่า พล.อ.ประวิตร มีความผิดจริงก็จะมีโทษจำคุก รวมถึงถอดถอนออกจากตำแหน่ง และเพิกถอนสิทธิทางการเมืองด้วย” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นเอาผิดจริยธรรมของ พล.อ.ประวิตร ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะการที่ พล.อ.ประวิตร คืนเงินประจำตำแหน่ง สส.ในทางกฎหมายการคืนเงินไม่ได้บรรเทาโทษ และเมื่อวันที่ 2-3 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ลาประชุมอีก และครั้งนี้ไม่ได้ไปคนเดียว แต่โดดประชุมเกือบทั้งพรรค เพื่อไปทำบุญที่ภาคอีสาน โดยใช้วันที่ สส.ต้องปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งตนจะตรวจสอบว่า ใช้เที่ยวบินใดในการเดินทาง และเสียใช้จ่ายอย่างไร เพราะนี่ถือเป็นภารกิจส่วนตัว ไม่ใช่การทำงานเพื่อประเทศชาติ ดังนั้นจะเบิกค่าใช้จ่ายจากภาษีของประชาชนไม่ได้
ส่วนกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร จะยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กรณีใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 นั้น นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า ตนในฐานะที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมากว่า 20 ปี เป็นกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคมาก่อน รู้ถึงดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดีว่า นายทักษิณ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงข้อบังคับและอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยระบุเอาไว้ชัดเจน ถึงการปกป้องสถาบัน ดังนั้น ไม่มีทางที่จะไปเซาะกร่อนบ่อนทำลายอย่างที่เขากล่าวหาแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ เห็นว่า การร้องของนายธีรยุทธถือว่า เป็นสิทธิสามารถทำได้ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล แต่ถ้าถึงที่สุดศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ ตนก็เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยสามารถชี้แจงได้ เพราะมีทีมกฎหมาย ไม่ได้มีอะไรน่าห่วง วันนี้มีเรื่องร้องจากพวกเขามาเป็น 10 เรื่อง ดังนั้นทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยมีการเตรียมการเรื่องนี้มาโดยตลอด
“การที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาฯพรรคพลังประชารัฐ ออกมาเปิดประเด็นแล้วโยงไปถึงนายธีรยุทธ ผมก็มีประเด็นเหมือนกันว่า นายธีรยุทธความใกล้ชิดกับใคร มาจากไหน ผมมีหลักฐานอยู่พอสมควร เดี๋ยวคงจะมีการเปิดเผยกันต่อว่า นายธีรยุทธน่าจะมีค่าใช้จ่ายมาจากใคร” นายพร้อมพงศ์ กล่าว