“โผทหาร” ดุ? เปิดเกมหักรายการ “คุณขอมา”

ประเด็นวิจารณ์มี 3 ประเด็น

1. มีรายการ “คุณขอมา” จาก “ผู้มีบารมีนอกกองทัพ” แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทำให้เกิดร่องรอยความขัดแย้ง และเอาคืนกัน 
2. มีข่าวจากรายการข่าวการเมืองชื่อดัง ทำนองว่า ลูกชายของ ผบ.ทบ. “บิ๊กต่อ” พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ซึ่งเป็นทหาร ได้ขอลาอกจากราชการ จึงมีการนำไปผูกโยงเรื่องราวว่า มีการข่มขู่จากรายการ “คุณขอมา” ที่ไม่ได้ตามคำขอ โดยขู่จะเล่นงานถึงลูก ทำให้ลูกชาย ผบ.ทบ.ต้องลาออก 
3. ร่องรอยการเอาคืน คือการจัดโผที่มีการเบียดนายทหารสาย “วงศ์เทวัญ” ซึ่งเป็นสายเดียวกับ “ผู้มีบารมีนอกกองทัพ” ไปนั่งตำแหน่งไม่สำคัญ แล้วขยับนายทหารสาย “ทหารเสือราชินี” ซึ่งเป็นสายเดียวกับ ผบ.ทบ. และ “ลุงตู่” ขึ้นคุมตำแหน่งสำคัญระดับกองพลถึง 3 กองพลในกองทัพภาคที่  1 ทั้งๆ ที่สายวงศ์เทวัญยึดครองมาก่อน

หากเอกซเรย์ทีละตำแหน่ง จะพบสิ่งที่นักวิจารณ์มองว่าผิดปกติ ดังนี้

ขาออก

• พลตรี สิทธิพร จุลปานะ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) เป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ทั้งๆ ที่น่าจะขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 มากกว่า 
• พลตรี เทพพิทักษ์ นิมิตร (ตท.31) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) เป็นรอง ผบ.โรงเรียนนายร้อย จปร. (จากสายคุมกำลัง เป็นสายการศึกษา)
• พลตรี เอกอนันต์ เหมะบุตร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 หรือ กองพลสไตรเกอร์ ซึ่งเป็นกองพลที่ “บิ๊กแดง” ปลุกปั้น จนเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของ “บิ๊กแดง” ถูกโยกไปเป็นรองผบ.โรงเรียนนายร้อย จปร. (จากสายคุมกำลัง เป็นสายการศึกษา)
• พลตรี วุทธยา จันทมาศ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 เป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก (จากสายคุมกำลัง เป็นสายวิชาการ)
• พลตรี โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก (จากสายคุมกำลัง ตามเข้าไปที่สายวิชาการ) 

กองพลทั้ง 5 นี้ คือกองพลหลักทั้งหมดของกองทัพภาคที่ 1 

ขาเข้า

มีการส่ง “ทหารเสือราชินี” เข้าไปคุมกองพลสำคัญอย่างน้อย 3 กองพล จาก 5 กองพล

"ทหารเสือราชินี" หมายถึงนายทหารที่เติบโตมาจาก กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ ร.21 รอ.ซึ่งเป็นหน่วยที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และ “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต รมว.มหาดไทย เคยเป็นผู้บังคับการกรมนี้ 

แต่ไม่ใช่สายตรง ”ลุงป้อม“ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เนื่องจาก ”ลุงป้อม“ มาจากกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (สลับเลขกัน) และเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. จึงถือเป็น ”สายบูรพาพยัคฆ์“

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ สายบูรพาพยัคฆ์เหมือนเป็น ”ร่มใหญ่“ ของนักรบภาคตะวันออก โดยมี ”ทหารเสือราชินี“ เป็น sub set แต่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ เพราะฝึกหนักไม่แพ้ “รบพิเศษ” และเป็นหน่วยที่มีความสำคัญพิเศษ เป็นหน่วยรักษาพระองค์ในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สำหรับทหารเสือราชินี ที่ได้คุมกองพลสำคัญในปีนี้ ได้แก่ 

• พันเอก เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา (ตท.32) รองผบ พล.ร.2 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2รอ. (ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์) 
• พันเอก กิตติ ประพิตรไพศาล (ตท.31) รอง ผบ.พล.2 รอ. ข้ามขึ้นเป็น ผบ.พล 1รอ. (ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์) 
• พันเอก ยุทธยา มีเจริญ (ตท.30) ขึ้นเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 หรือ กองพลสไตรเกอร์ 

ทั้งสามคนเป็นน้องรักของ “บิ๊กต่อ” พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.

นอกจากนั้น หัวขบวนทัพ 1 คือ แม่ทัพภาคที่ 1 ยังเป็น พลโท อมฤต บุญสุยา ซึ่งขยับตามไลน์มาจากแม่ทัพน้อยที่ 1 ก็เป็นทหารเสือราชินีด้วยเช่นกัน 

ข้อมูลอีกด้าน เห็นต่างแต่ไม่ขัดแย้ง ยันเคลียร์ครบ-จบสวย

ปัญหาจากการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ประจำปี 2566 ที่ล่าสุดมีข่าว แรงกดดัน บิ๊กต่อ พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงที่จัดทำโผทหารนั้น

แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับ “เนชั่นทีวี” ว่า แม้จะมีรายการคุณขอมา แต่ทุกอย่างจบลงแล้ว เพราะมีการโปรดเกล้าฯ แล้ว อีกทั้งมีการเคลียร์ใจจบ

ส่วนข้อกล่าวหาตำแหน่งผู้บัญชาการกองพล พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีแต่ทหารเสือราชินีได้ตำแหน่งไปนั้น ก็ยืนยันว่า ไม่ใช่ทหารเสือราชินีทั้งหมด อย่างกองพลทหารราบที่ 9  ผบ.พล. ก็เป็นลูกหม้อจากหน่วย เติบโตมาตามเส้นทาง 

ส่วน กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ที่แต่เดิมก็เป็นสายวงศ์เทวัญเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นก็มีสลับเป็นทหารเสือฯ ซี่งก็สลับไปมา 

นอกจากนี้ การแต่งตั้งก็มีการกระจายรุ่นต่างๆ ตามการเจริญเติบโต และความอาวุโส อย่าง ผบ.พล. หลายกองพลที่ถูกขยับ ก็เป็นเพราะอยู่มา 2 ปีแล้ว มีบางคน 1 ปีครี่ง ซึ่งก็ได้เวลาที่ต้องขยับออก แต่ด้วยตำแหน่งรองแม่ทัพ 1 ที่มี 3 อัตรา ว่างแค่ 1 อัตรา คนที่ไม่ได้ก็ต้องขยับไปโตส่วนอื่น เช่น โรงเรียนนายร้อย จปร. แต่ก็อาจจะเป็นลักษณะ “ย้ายไปพัก เพื่อรอวันกลับมา“