svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รมช.คลัง คาดต้นปี 68 ชงร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรให้สภาฯ พิจารณาได้

รมช.คลัง คาดต้นปี 68 ชงร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรให้สภาฯ พิจารณาได้ - ยืนยัน “กาสิโน” เป็นเพียงเศษเสี้ยวการลงทุนให้ครบองค์ประกอบ ย้ำเหตุขยายกรอบเศรษฐกิจก่อนนำเงินไปทำสวัสดิการ ปชช.

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าถึงการเตรียมร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลัง ได้นำร่างกฎหมายที่คณะกรรมาธิการฯ ของสภาผู้แทนราษฎรยกร่างเสนอมา ไปศึกษาในรายละเอียด และปรับให้เข้ากับระเบียบวิธีการ เพื่อให้สามารถบังคับใช้ได้จริง เนื่องจากในหลาย ๆ ส่วนของร่างกฎหมาย ยังขัดกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง และประเด็นอื่น ๆ ที่ยังเป็นปัญหา แต่ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้า เนื่องจาก ผ่านการทำประชาพิจารณ์มาแล้ว ซึ่งมีผู้เห็นด้วยค่อนข้างมาก ซึ่งคาดว่า ในช่วงต้นปี 2568 จะสามารถส่งร่างกฎหมายให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้ตามขั้นตอน

นายจุลพันธ์ ยังย้ำถึงหลักคิดของรัฐบาลต้องการสร้างเม็ดเงินใหม่ และดึงการลงทุนเข้ามาในประเทศ ซึ่งรัฐบาล จะต้องกำหนดว่า จะดำเนินการพื้นที่ใด และขนาดการลงทุนจะเป็นอย่างไร และต้องการให้การพัฒนาไปในทิศทางใด ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ และรัฐบาล จะเร่งรัดการทำงานให้เร็วที่สุด แต่จะไม่ละเลยความรอบคอบ รวมถึงผลกระทบ และยืนยันได้ว่า จะมีความโปร่งใสทุกประการแน่นอน

นายจุลพันธ์ ยังย้ำว่า สถานบันเทิงครบวงจร ไม่ใช่เฉพาะเรื่องกาสิโน ซึ่งจะมีไม่ถึง 5% ของพื้นที่ เพราะไม่ใช่โมเดลของการพนัน และกาสิโน เป็นเพียงเศษเสี้ยวของการลงทุนให้ครบองค์ประกอบเท่านั้น พร้อมเชื่อว่า ในระยะยาวการขยายกรอบขนาดเศรษฐกิจ คือ การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความเหมาะสม สุดท้ายจะเกิดประโยชน์กับทุกคน และมีช่องว่างสำหรับการทำนโยบายอื่นๆ พร้อมยกตัวอย่าง นโยบายการศึกษาระบบภาษีรูปแบบใหม่ หรือ Negative Income Tax ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาว่า ในระยะยาว คือความใฝ่ฝันที่จะสร้างกลไกสวัสดิการให้ประชาชนอย่างเหมาะสม

 

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมองนโยบายนี้เป็นนโยบายเรือธงของสามนาย คือ นายใหญ่-นายทุน-นายหน้านั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ไม่อยากให้เอาวาทกรรมพวกนี้มาพูด ไม่ค่อยเกิดประโยชน์ของการตอบโต้ ตนไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ นายของพวกเราทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล คือประชาชน และแน่นอนว่าแนวคิดการพัฒนาประเทศ อาจจะมีความแตกต่างกัน รัฐบาลมองการเติบโตทางเศรษฐกิจเคสที่ใหญ่ขึ้น พอที่จะกระจายไปยังประชาชนให้คนลืมตาอ้าปากได้ แต่ฝ่ายค้าน อาจจะมองในมุมการสร้างสวัสดิการเป็นเรื่องต้น ๆ ซึ่งเรามองว่า การทำสวัสดิการแบบถ้วนหน้าในตอนนี้ อาจจะขาดความพร้อมเรื่องเม็ดเงิน ขนาดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตยังยาก