แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความขอบคุณสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต (H.E. Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา, ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Bin Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และ นายลอว์เรนซ์ หว่อง (H.E. Mr. Lawrence Wong) ที่ร่วมกันแสดงความยินดีในโอกาสการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้
สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต (H.E. Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา
โดย นายกรัฐมนตรีไทยได้ขอบคุณสำหรับข้อความแสดงความยินดีจากสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต ซึ่งถือเป็นผู้นำประเทศแรก ๆ ที่ได้รับภายหลังได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันถึงความเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-กัมพูชา ซึ่งจะฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชาในปีหน้า รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้แสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธาร ในโอกาสดำรงตำแหน่ง สร้างประวัติศาสตร์ และสร้างประวัติศาสตร์นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด และเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดมาเลเซียและไทย ต่างเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญ และยั่งยืนร่วมกัน ความสัมพันธ์สร้างขึ้นจากการเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่มีมายาวนาน และหยั่งรากลึก ซึ่งการแสวงหาสันติภาพ และการพัฒนาร่วมกันในภาคใต้ของไทย ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อชุมชนทั้งสองฝั่งชายแดน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หวังว่า จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อส่งเสริมศักยภาพความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ นายกรัฐมนตรีของไทยที่หวังว่า จะสามารถทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพ ความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์
เช่นเดียวกับ นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่ได้แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี ในโอกาสดำรงตำแหน่งฯ มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศ จะเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทย ได้ยืนยัน่วา ไทยและสิงคโปร์เป็นมิตรประเทศ เป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด และในโอกาสที่ทั้งสองประเทศ จะเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 พร้อมหวังว่า จะได้ร่วมงานกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ และภูมิภาคต่อไป
นายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย
นางสาวแพทองธาร ยังได้ขอบคุณนายนเรนทร โมที (H.E. Mr. Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งได้แสดงความยินดีนางสาวแพทองธาร โอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย และอวยพรให้ดำรงตำแหน่งประสบความสำเร็จ โดยนายนเรนทรฯ หวังว่า จะได้ร่วมงานกับนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างอินเดีย และไทย ซึ่งตั้งอยู่บนรากฐานอันแข็งแกร่งของอารยธรรม วัฒนธรรม และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีไทย ได้ขอบคุณสำหรับข้อความแสดงความยินดี เชื่อว่า จะสามารถทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีของอินเดีย เพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์สองฝ่ายให้เข้มแข็ง และแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการค้า และการลงทุน วัฒนธรรม การติดต่อระหว่างประชาชน และการท่องเที่ยว รวมทั้งการปรับเพิ่มเที่ยวบินในการเดินทางระหว่างกัน พร้อมมั่นใจว่า จะสามารถต่อยอดความร่วมมือที่มี และแสวงหาความร่วมมือที่มีศักยภาพ เพื่อขยายโอกาสสำหรับประชาชนของทั้งสองประเทศต่อไปได้
โจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
ขณะที่ นายโจโค วิโดโด (H.E. Mr. Joko Widodo) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้แสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธาร ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย โดยเชื่อว่า ความสามารถในการเป็นผู้นำภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ทั้งอินโดนีเซีย และไทยจะยังคงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้น รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือภายในอาเซียน ซึ่งนางสาวแพทองธาร ได้ขอบคุณประธานาธิบดีอินโดนีเซีย สำหรับคำอวยพร พร้อมย้ำว่า ไทยและอินโดนีเซียเป็นมิตร และหุ้นส่วนที่ดีในอาเซียน และในโอกาสที่ทั้งสองประเทศ จะเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประโยชน์สำหรับประเทศและประชาชน รวมถึงสำหรับภูมิภาคต่อไป
มุฮัมมัด มุอิซซุ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์
เช่นเดียวกับ นายมุฮัมมัด มุอิซซุ (Mohamed Muizzu) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่แสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธาร ที่ได้รับการแต่งตั้งฯ พร้อมเห็นว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญรุ่งเรือง ภายใต้ผู้นำที่มีความสามารถ และหวังว่า จะได้ทำงานร่วมกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างมัลดีฟส์และไทย โดยนางสาวแพทองธาร ได้ขอบคุณประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ สำหรับการแสดงความยินดี และความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยให้คุณค่ากับความสัมพันธ์อันยาวนานที่มีกับมัลดีฟส์ และหวังว่า จะได้ร่วมงานกันเพื่อยกระดับความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในทุกภาคส่วน
แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ นายแอนโทนี บลิงเกน (H.E. Mr. Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธาร ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย และหวังว่า จะได้มีส่วนร่วมกับนายกรัฐมนตรีในการกระชับความเป็นพันธมิตรที่ยั่งยืน ระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ซึ่งนางสาวแพทองธาร ได้ขอบคุณ และยืนยันว่า พร้อมทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรไทย-สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน รวมทั้งผลักดันความเป็นหุ้นส่วนในหลากหลายมิติให้ก้าวหน้า เพื่อประโยชน์ของประเทศ ประชาชน และภูมิภาคต่อไป