เพื่อไทยถึงจุดต่ำสุด “ทักษิณ“ ไม่ช่วย รอวันพลิกเกม-เกมพลิก

โพลของสถาบันพระปกเกล้าที่ตัวเลขออกมาว่า คะแนนนิยมของ"พรรคเพื่อไทย" ตามหลัง "พรรคก้าวไกล" กว่า 1 ช่วงตัว และนายกฯ กับ อุ๊งอิ๊งค์ ก็มีคะแนนตามหลัง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แบบไม่เห็นฝุ่น ทำให้เกิดกระแสวิเคราะห์วิพากษ์ทิศทางการเมืองในปัจจุบันอย่างกว้างขวาง 

อ.สติธร ธนานิธิโชต ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ทำสำรวจโพลคะแนนความนิยมดังกล่าว กล่าวว่า ไม่รู้สึกแปลกใจกับผลสำรวจที่ออกมา เพราะโพลการเมืองทุกสำนักสอดคล้องกันหมด ทั้งนิด้าโพล และโพลอื่นๆ คือ

• ก้าวไกลคะแนนนำ
• เพื่อไทยตามหลังมาห่างๆ 
• เพื่อไทยคะแนนนิยมไม่ดีขึ้น หลังจากได้รับโอกาสบริหารประเทศมาเกือบ 1 ปี 

สิ่งที่พบเพิ่มเติม

• “อดีตนายกฯทักษิณ” ไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องคะแนนนิยม หลังจากเพื่อไทยสูญเสียแต้มไปเยอะจากการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว สะท้อนจากทุกโพลสอดรับกัน คือ เก็บคะแนนเดิมได้ 60-70% (คะแนน ณ วันที่ 14 พ.ค.66 แต่หลังจากตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว คะแนนนิยมก็ลดลง) 
• การมีอำนาจรัฐ ไม่ได้ทำให้คะแนนนิยมกลับมา รวมถึงการได้ “อดีตนายกฯทักษิณ” มาช่วย 
• ตามธรรมชาติของการเมืองนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ หรือมีคำตอบแบบ “สำเร็จรูป” เพราะอาการร่อแร่แบบนี้ วันดีคืนดี จังหวะการเมืองเข้าทาง คะแนนนิยมพลิกกลับมาพุ่งแรง ก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน 

อ.สติธร อธิบายว่า ผลโพลที่ออกมา เพื่อไทยยังไม่ถึงขั้น “จุดตาย” แต่เป็น “หมุดหมาย” ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องหมายเหตุ หรือขีดเส้นใต้เอาไว้ และแก้เกมโดยด่วน 

 ข้อสังเกต

คะแนนนิยมที่ปรากฏ เป็นจุดต่ำสุดของ "พรรคเพื่อไทย" แล้วหรือยัง ส่วนตัว อ.สติธร มองว่าเมื่อดูจากตัวเลขคิดว่าอาจจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว 

ถ้าใช่จุดต่ำสุด ก็ต้องรอพิสูจน์ผลงานนับจากนี้ ถ้าทำได้ ก็จะทำให้คะแนนนิยมดีขึ้นได้บ้าง แต่นโยบายเรือธงยังไม่ออกมา จึงยังไม่เป็นผลงาน ต้องรอดูนโยบายเรือธงว่าทำสำเร็จหรือไม่

อีกมุมหนึ่งที่ต้องมองคือ "ก้าวไกล" ไปสู่จุดสูงสุดแล้วหรือยัง เพราะช่องห่างของคะแนนนิยมสองพรรค ยังเท่าๆ เดิม กับช่วง 3 เดือนและ 6 เดือนก่อนหน้านี้ 

ดังนั้น อ.สติธร จึงมองผลสำรวจในเชิงบวกกับพรรคเพื่อไทย 

บทบาทของ “อดีตนายกฯทักษิณ ” ซึ่งจัดหนัก เล่นแรง แบบไม่แคร์สายตาใคร ปรากฏว่าไม่ได้ทำให้เกิดผลลบมากมาย และเพื่อไทยยังสามารถรักษาฐานเดิมได้ เพียงแต่ผลบวกในแง่การเพิ่มคะแนนยังไม่ออกมา 

ซึ่งหากพิจารณาผลโพลเชื่อมโยงกับการเมืองวันนี้ สรุปได้ว่า “ฝ่ายอำนาจเก่า” หรือ “อนุรักษ์นิยม” ไม่มีทางเลือก ต้องประคองพรรคเพื่อไทยเอาไว้ก่อน การขับเคลื่อนของ 40 สว. อาจทำได้แค่ปราม เพราะถ้า “หักกัน” หรือ “หักดีล” ก็เท่ากับเปิดประตูให้พรรคก้าวไกลมีอำนาจรัฐทันที 

ดูจากผลโพลภาพรวม คะแนนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน รวมกันได้ 249 เสียง ฉะนั้นตัวแปรคือประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคก้าวไกลยังไม่เกินครึ่ง หรือไม่แลนด์สไลด์ เหตุนี้ถ้าขั้วรัฐบาลปัจจุบันจับมือกันแน่น ก็ยังรักษาสถานะเป็นรัฐบาลต่อไปได้ โดยดึงประชาธิปัตย์มาร่วมเพิ่มเติม 

ส่วน "ก้าวไกล" หากจะเป็นรัฐบาล ต้องได้ 250 ขึ้นไป หรือแลนด์สไลด์นั่นเอง คาดว่าในการเลือกตั้งหนหน้า คือปี 2570 ยังเป็นไปได้ยาก แต่ทิศทางนี้อาจเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งถัดจากครั้งต่อไป คือปี 2574 (กรณีรัฐบาลอยู่ครบวาระทั้ง 2 รัฐบาล)