20 เมษายน 2567 การประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทรวมพลัง ครั้งที่ 1/2567 ที่โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี โดยที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น "ไทรวมพลัง" (ทรพ.)
โดยคำว่า "ไท" แปลว่าอิสระหรือเพื่อนที่มารวมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง พร้อมเปลี่ยนโลโก้พรรคเป็นตัวอักษร ทร. สีชมพู-ม่วง และประกาศจุดยืนพรรคคือเสรีนิยมก้าวหน้าสายกลาง พรรคแรกของประเทศ ไม่สุดโตร่ง และเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ มีนโยบายยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา ที่เริ่มต้นทำงานใหม่ 5 ปี และภาษีธุรกิจ Start-Up ให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตั้งตัว สร้างครอบครัว รัฐก็สามารถจัดเก็บได้ต่อได้ ทำให้ไม่อยากหลบภาษี และเน้นการกระจายอำนาจและไม่ทิ้งประเด็นความต้องการของท้องถิ่น (Think Locally, Act Globally)
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการเลือกกรรมการบริหารพรรค ยังคงได้ "นายวสวรรธน์ พวงพรศรี" หรือ "กังฟู" เป็นหัวหน้าพรรค และ นายวรเชษฐ เชิดชู เป็นเลขาธิการพรรคเช่นเดิม โดยมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค และเป็นกรรมการบริหารพรรคมากขึ้น
โดยนายวสวรรธน์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า นโยบายหลักของพรรคที่จะเร่งผลักดันหลังจากนี้ 5 ข้อ คือ
นายวสวรรธน์ กล่าวต่อว่า พรรคพร้อมจะทำงานร่วมกับทุกพรรค ก่อนการจัดตั้งรัฐบาล พรรคสนับสนุนที่หนึ่ง คือ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" แต่เมื่อไม่ผ่านติดเงื่อนไข สว. ก็ต้องยกมือเลือกที่สองตามกติกา เพื่อไม่ให้ไปถึงที่สามและที่สี่ ตามเสียงของประชาชน
"กฎหมายไหนที่สำคัญ เราพร้อมจะสนับสนุนไม่เลือกฝ่าย เช่น ร่างแก้ไขกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายอากาศสะอาด หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นต้น เราเป็นพรรคที่ทำการเมืองแบบใหม่และจะค่อยๆ เติบโต ขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนพวกเราต่อไป" นายวสวรรธน์ กล่าว
จากนั้น นายวสวรรธน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นเป็นพรรคสาขาของเพื่อไทย โดยยืนยันว่า ไม่ใช่พรรคตัวแทนของใคร และวันนี้ (20เม.ย.) ก็ชัดเจนแล้วว่าการปรับโฉมใหม่ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยแนวคิดเสรีก้าวหน้าสายกลาง ทันสมัย ไม่ฮาร์ดคอร์ พร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรค
"วันนี้ร่วมรัฐบาลอยู่ก็ต้องขับเคลื่อนนโยบายที่พรรคหาเสียงไว้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ซึ่งพรรคไทรวมพลังเกิดมาจากท้องถิ่น แต่ก็อินเตอร์ได้ เพื่อเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ได้ส่งเสียงทางการเมือง" หัวหน้าพรรค ระบุ
อย่างไรก็ตาม พรรคไทรวมพลังไม่ได้ปรับโฉมเพื่อเตรียมต่อสู้กับใคร แต่สู้กับตัวเอง ทำงานให้มากขึ้น ขยันให้มากขึ้น รักษาสัญญาที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เพราะโซเชียลมีเดียเร็ว พูดอะไรไว้ก็ต้องทำ พร้อมย้ำว่าพรรคจะเป็นคนกลางประสานให้มีการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งทุกพรรคการเมืองออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ หากเอาอคติออกเชื่อว่าทุกคนทำงานด้วยกันได้หมด
ขณะเดียวกัน ยังมีตัวแทนจากพรรคก้าวไกล จ.อุบลราชธานี และกลุ่มเพื่อไทยโคราช มาแสดงความยินดีด้วย
สำหรับพรรคไทรวมพลัง มี สส. เขตด้วยกัน 2 คน คือ
อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา ทั้ง 2 คน สามารถเอาชนะแชมป์เก่า อย่าง "พรรคเพื่อไทย" ไปได้
โดย นางพิมพกาญจน์ ชนะ "นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ" หรือ "ชูวิทย์ กุ่ย" สส. 7 สมัย ไปด้วยคะแนน 31,218 ต่อ 22,020 คะแนน
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เอาชนะ "นายสมคิด เชื้อคง" สส. 2 สมัย ไปด้วยคะแนน 63,127 ต่อ 19,351 คะแนน