15 มกราคม 2567 "นายสุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมสภากลาโหม ถึงความคืบหน้าเรื่องจัดซื้อเรือดำน้ำ หลังอัยการสูงสุดส่งคำตอบมาให้กองทัพเรือ ว่า อ่านแล้ว เพิ่งได้รับมาก็ต้องหารือ ในเร็วๆนี้ จะเชิญผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพเรือมาหารือกับฝ่ายนโยบาย และฝ่ายกฎหมาย จะคุยกันว่าจะหาข้อสรุปอย่างไร เท่าที่อ่านดูสุดท้ายก็ต้องจบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนที่กองทัพเรือส่งหนังสือสอบถามเรื่องข้อกฎหมายไปหลายกระทรวงนั้น เท่าที่ทราบมีอัยการสูงสุดเป็นหลัก เรื่องอื่นไม่ทราบ อาจจะเป็นการถามความเห็นอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งขณะนี้ ผบ.ทร. ไปราชการต่างประเทศ และทราบว่ากลับพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) ก็จะรีบหารือกัน ก็อยากให้จบให้เร็วที่สุด แต่หากจบเร็วแล้วเสียหาย ก็จำเป็นต้องใช้เวลา
ส่วนจุดยืนของรัฐบาล และส่วนตัว จะเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต หรือเดินหน้าต่อเรือดำน้ำติดเครื่องยนต์จีนนั้น ย้ำว่ายังไปไม่ถึงตรงนั้น แต่ยึด 3 หลัก คือ
1.ความต้องการของกองทัพเรือ
2.ผลประโยชน์ของประเทศต้องไม่เสียหาย
3.ถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากยึด 3 หลักนี้ก็จะออกมาเป็นแนวทาง
อนึ่ง "พล.ร.อ.อะดุง เอี่ยมพันธุ์" ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2566 ว่าได้ทำหนังสือส่งถึงอัยการสูงสุด เพื่อสอบถาม 3 ประเด็น เกี่ยวกับเรือดำน้ำ โดยต้องอัยการสูงสุดตอบกลับใน 30 วัน หลังได้ทำหนังสือส่งไป โดยคำถามประกอบด้วย
1.การปรับแก้เครื่องยนต์เป็นสาระสำคัญหรือไม่
2.การจะเปลี่ยนเรือดำน้ำมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
3.อนุมัติให้แก้ไขเครื่องยนต์ อำนาจอยู่ที่ใคร