12 มกราคม 2567 วันนี้ ( 12 ม.ค.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี "นายชัยชนะ เดชเดโช" สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน กมธ. จะนำคณะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่พักรักษาตัวของ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ที่ปัจจุบันรักษาตัวเกิน 120 วันแล้ว โดย นช.ทักษิณ เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 66
มาประมวลกันว่า การที่ กมธ.ตำรวจ ที่จะเข้าไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเฉพาะชั้น 14 ที่มีการเปรียบเทียบว่าเป็นชั้น ดาวน์ดึง เป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด สำหรับบุคลภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ นช.ทักษิณ ว่าเกิดอะไรขึ้น กันบ้างก่อน คณะกมธ. จะเข้าไปดูงานในเวลา 10.00 น.
ความพยายามของภาคประชาชน
วันที่ 9 ม.ค.67 เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมพันธมิตร แถลงล่ารายชื่อ เสนอ ประธานรัฐสภา ให้ยื่นต่อ ประธานศาลฎีกา ไต่สวน ป.ป.ช. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตรวจสอบข้าราชการ ปล่อยให้ นช.ทักษิณ นอนโรงพยาบาลตำรวจ เกิน 120 วัน พร้อม เรียกร้อง ก้าวไกล-ประชาธิปัตย์ ร่วมลงชื่อ พร้อมเตรียม นำม็อบค้างคืนหน้าทำเนียบ 12-14 ม.ค.นี้
วันที่ 11 ม.ค. 67 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับความเห็นและรายงานจากแพทย์แล้ว ขณะนี้กำลังรวบรวมรายละเอียดประกอบหลักฐานอื่นๆ ทั้งหมด เพื่อประมวลรายงานส่งรัฐมนตรียุติธรรมโดยเร็วที่สุด
ความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
11 ม.ค.67 พ.ต.อ.หญิงศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยกรณี คณะกรรมาธิการตำรวจ (กมธ.ตร.) ทำหนังสือขอมาศึกษาดูงาน รพ.ตำรวจ โดยยืนยันว่า พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) โรงพยาบาลตำรวจ ได้มีหนังสือตอบรับไปยังกมธ.ตำรวจ เพื่อให้เข้ามาศึกษาดูงานเกี่ยวกับการนำตัวผู้ต้องขังที่ส่งจากกรมราชทัณฑ์มารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ในวันศุกร์ที่ 12 ม.ค.2567 แล้ว
โดยย้ำว่า การเข้ามาศึกษาดูงาน จะต้องไม่กระทบการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ ไม่กระทบสิทธิ์หรือละเมิดสิทธิ์ของผู้ป่วยที่มาใช้บริการ และไม่ทำความเสียหายให้โรงพยาบาลตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ซึ่งรักษาตัวอยู่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ไม่สามารถขึ้นไปดูได้ เพราะการจะไปดูผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณหรือผู้ป่วยรายอื่น รพ.ตำรวจคงไม่อนุญาต
11 ม.ค. 67 กรมราชทัณฑ์ ออกหนังสือชี้แจง กรณีที่กรมราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลภายนอก ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2566 โดยพบว่า นายทักษิณมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตาม อาการ และเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตเห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง และยังคงรักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า ขณะนี้ นายทักษิณ ได้ออกไปรับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจเกินระยะเวลา 120 วัน โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับทราบถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งแพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยในหลายประการที่ต้องเฝ้าระวัง โดยแจ้งความเห็นว่าผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทางและต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต
และเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จึงได้รายงานมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อดำเนินการพิจารณา ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ที่ระบุไว้ว่า “กรณีผู้ต้องขังต้องพักรักษาตัวที่สถานที่รักษาเป็นเวลานาน” ให้ผู้บัญชาเรือนจำดำเนินการดังนี้ กรณีการพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นแพทย์ ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้พิจารณาจากความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษา ที่พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ายังต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ประกอบกับเอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความครบถ้วนตามกฎหมาย จึงพิจารณาเห็นชอบ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2567 ให้นายทักษิณ อยู่รักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที
โดยกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎกระทรวง จึงรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 โดยกรมราชทัณฑ์ ยังคงยึดหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึ่งได้รับตามมาตรฐานสากล รวมถึงเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ผู้ป่วย และตามจรรยาบรรณของแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลด้วย กรมราชทัณฑ์ จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยออกสู่สาธารณชนได้ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 และข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกร พ.ศ.2549 ข้อ 27 ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตาม
ความเห็นทางการเมือง
11 ม.ค. 67 "นายชัยธวัช ตุลาธน" สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งกระทู้ถามสดถึง นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับปัญหากระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน ที่มีบุคคลได้รับอภิสิทธิ์การรักษาพยาบาลนอกเรือนจำบนชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ เกินกว่า 120 วัน
โดย "นายภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ในการตอบกระทู้นี้ ชี้แจงว่า นายชัยธวัช ไม่ได้ทำความเข้าใจในรายละเอียดของกฎหมายเท่าที่ควร เพราะพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ทำให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียม และเป็นกฎหมายฉบับนี้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว โดยที่พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่ได้เป็นผู้เสนอ หรือสร้างมาเพื่อใคร และผู้ที่อยู่ในเรือนจำหากแพทย์วินิจฉัยว่าป่วย ก็ต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ดังนั้น เรื่องชั้น 14 เมื่อแพทย์วินิจฉัยแล้วก็ถือเป็นอันสิ้นสุด
ความเห็นทางสังคม
12 ม.ค. 67 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นักโทษทักษิณกับนักโทษชาวบ้าน ประชาชนคงได้เห็นข่าว กรมราชทัณฑ์ แถลงเป็นเอกสารกรณีนักโทษชายทักษิณ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกิน 120 วัน
เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที
ท่ามกลางข้อสงสัยว่า เขาป่วยหนักจริงหรือไม่ ถึงขนาด รพ.ราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้ และทำทุกอย่างเป็นความลับ อึมครึมให้ประชาชนสงสัย จนน่าเบื่อหน่าย
ในทางกลับกัน ผมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีญาติเป็นนักโทษ มีเนื้องอกในสมอง ต้องผ่าตัดที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ไม่มีการนอนห้องพิเศษ (ไม่ต้องพูดถึงห้องvvip)
ที่เลวร้าย นอกจากชีวิตต้องเป็นอัมพาต จากเนื้องอกในสมอง อยู่ รพ. ได้ 119 วัน แพทย์ที่ รพ. ไม่ได้ให้กลับเรือนจำ แต่ราชทัณฑ์ทำหนังสือมาขอตัวกลับให้ไปอยู่เรือนจำ (คงไม่อยากทำเรื่อง เพราะเกิน 120 วัน)
ระหว่างนักโทษชาย ที่ไม่รู้ว่าป่วยจริงหรือไม่ ได้อภิสิทธิ์อยู่ห้อง vvip กับชาวบ้านที่เป็นนักโทษเช่นกัน มีเนื้องอกในสมอง ผ่าตัดเป็นอัมพาต ได้รับการปฏิบัติจากราชทัณฑ์เหมือนฟ้ากับเหว นี่หรือประชาธิปไตยที่เท่าเทียม
12 ม.ค. 67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ อยู่ต่อ เหตุผลแบบหน้าด้านๆ ผมได้อ่านคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับการอนุญาตให้ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร พักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ต่อไป หลังจากได้พักอยู่ครบ 120 วันแล้ว
โดยระบุว่า กรมราชทัณฑ์ "พิจารณาเห็นชอบ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ให้นายทักษิณ ชินวัตร อยู่รักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วย ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที"
คำแถลงเหตุผลดังกล่าว ทำให้เกิดความคลางแคลงใจ ในอาการป่วยของคุณทักษิณว่า ป่วยจริงหรือไม่ ป่วยด้วยโรคอะไร อาการเป็นเช่นไร ซึ่งกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ พยายามปกปิดและอ้างประเด็น เรื่องสิทธิผู้ป่วย มาปิดปาก ปิดหู ปิดตาประชาชน ไม่ให้รับรู้ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น
ผมมั่นใจว่า ในขณะนี้คนไทยทั้งประเทศ ไม่มีความเชื่อมั่น และขาดความเชื่อถือในการแถลงข่าว ทั้งของกรมราชทัณฑ์ และคณะแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โดยสิ้นเชิง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน อยากให้รัฐบาลตั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่สังคมยอมรับขึ้นมาชุดหนึ่ง ตรวจสอบข้อเท็จจริงซ้ำ หรือที่เรียกกันว่า Double check ถ้าคณะกรรมการชุดนี้ มีความเห็นเป็นเช่นไร ก็น่าจะเป็นข้อยุติ เพราะเป็นคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ทุกฝ่ายได้รับการยอมรับ
ส่วนตัวผมเชื่อว่า การอนุญาตให้คุณทักษิณพักที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป เป็นเหตุผลทางการเมือง มากกว่าเหตุผลทางการแพทย์ ถ้าหากรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ผมเชื่อเหลือเกินว่า คุณทักษิณคงไม่ได้นอนกระดิกเท้าสบายใจเฉิบ อยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเหมือนตอนนี้ จะถูกนำตัวไปคุมขังในโรงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯตามคำพิพากษาอย่างแน่นอน
ขออย่าให้การบังคับใช้กฎหมาย ของกระบวนการยุติธรรมเสื่อมถอย เพราะคนๆ เดียวอีกเลย ขอให้ละอายแก่ใจ และเกรงใจประชาชนเจ้าของประเทศบ้าง เพราะทุกคนรู้ว่า คุณทักษิณอยู่ชั้น 14 ได้ทุกวันนี้ เพราะเหตุผลใด เพียงแต่เขาไม่มีอำนาจ ที่จะไปจัดการให้เกิดความเป็นธรรมได้