ช่วงนี้ มีคนแซวว่า “ลุงนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ไปที่ไหนก็พูดแต่ซอฟต์พาวเวอร์ เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทย "1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์" ที่ตั้งใจจะผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นที่รู้จักของทั่วโลก พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มนำเงินเข้าประเทศ
“เนชั่นออนไลน์” จึงรวมรวบมาให้หลังจากที่ “เศรษฐา ทวีสิน” เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว มีการพูดถึง และเดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ด้านใดบ้าง
เริ่มจาก 13 ก.ย.2566 "เศรษฐา" จรดปากกาเซ็นแต่งตั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย โfยนายกฯเป็นประธาน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นรองประธาน ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ และหลังจากนั้นมา ไม่ว่า “นายกฯเศรษฐา” จะลงพื้นที่ไปที่ไหน ก็ไม่พลาดที่จะดึงซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัด และพื้นที่นั้นๆมาโชว์
ด้านอาหาร
2 ต.ค. 2566 นายกฯ รับฟังการนำเสนอ Thailand Soft Power Halal & Future Food จากนายบุญเลิศ อ่องไพบูลย์ รองประธานคณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต (PFC) สภาหอการค้าไทย
โดยนากฯ ย้ำว่ารัฐบาลสนับสนุน สร้างองค์ความรู้ด้านอาหาร ให้ไทยเป็น "Soft Power" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เปิดโอกาส Start up ด้านอาหารรายใหม่ ผลักดันให้ไทยมีความมั่นคงด้านอาหาร เป็นแหล่งผลิตอาหารฮาลาลที่หลายประเทศต้องการ
ด้านกีฬา
24 ต.ค. 2566 นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ครั้งแรกประจำปี 2566 ชูธงจะใช้กีฬา เป็น Soft Power ของประเทศ โดยเดินหน้าโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจทันที ภายใน 2 เดือน จะเริ่มทยอย “จับคู่” นายกฯ ย้ำปัจจัยสนับสนุนยึดหลักความเป็นสากลของกีฬา ความนิยมของประชาชน และผลงานเป็นที่ประจักษ์
เทศกาลฤดูหนาว
รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรม “Colorful Bangkok Winter Festival” ซึ่งเป็นเทศกาลในช่วงปลายปี โดยจะเริ่มที่กรุงเทพฯ ก่อนแล้วขยายกิจกรรมไป 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็น Thailand Winter Festivals และยังมีกิจกรรมจาก 11 สาย Soft Power ด้วยความร่วมมือจากกระทรวงต่าง ๆ และภาคเอกชน โดยจะมีงานแถลงข่าวพร้อมรายละเอียดอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้
ด้านภาพยนตร์
25 ต.ค.2566 "นายกฯเศรษฐา" นำครม. ชมภาพยนตร์ ที่ผลิตและถ่ายทำโดยคำไทย เรื่อง "สัปเหร่อ" มีเนื้อหาถ่ายทอดวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อภาคอีสานผ่านสายตาคนรุ่นใหม่ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ถือว่าประสบผลสำเร็จ ทำรายได้ทะลุ 700 ล้านบาท ภายใน 2 สัปดาห์หลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
นายกฯ เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ คือการที่ผู้กำกับและทีมงานภูมิใจในรากเหง้าของตัวเอง ควรค่าแก่การสนับสนุน
"รัฐบาลเราสนับสนุน Soft Power ทุกมิติ ด้านภาพยนตร์เองก็เช่นกัน เราพร้อมที่จะผลักดันให้ภาพยนตร์ไทย พาวัฒนธรรมของเราออกไปสู่สายตาชาวโลก เป็นจุดขายไปสร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ และความชื่นชอบให้กับประเทศไทย สุดท้ายนี้ หนังบอกเราให้มองเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ทำทุกอย่างให้เต็มที่ และดูแลคนที่เรารักให้ดีที่สุดครับ"
ด้านประเพณีและวัฒนธรรม
29 ต.ค.2566 นายกฯ ร่วมงานประเพณีออกพรรษา และปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคของ จ.หนองคาย โดยงานนี้เป็นงานระดับโลก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ และเฝ้าดูปรากฏการณ์นี้ทุกปี
นายกเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจสนับสนุนเทศกาลทุก ๆ เทศกาล ในทุก ๆ จังหวัด อยากจะให้ประเทศไทยไม่มี High Season - Low Season แต่อยากให้ทุกเดือนเป็น High Season หมด เราจะโปรโมททุก ๆ Event ของทุก ๆ เดือนไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเล็กหรือจังหวัดใหญ่เพื่อให้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น
“ผมดีใจครับที่เราทุกคนช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของเราไว้ นี่แหละครับคือ จุดแข็ง ของเรา คือ Soft Power ที่เราสามารถส่งออกสู่สายตาชาวโลก และสร้างเป็นรายได้กลับคืนมาสู่ชุมชนของเราได้” นายกฯกล่าว