19 กันยายน 2566 ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ครั้งที่ 2/2566 โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการรายงานผลการขับเคลื่อนพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 และเพื่อพิจารณาร่างระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายว่าด้วยการบันทึกภาพและเสียงในขณะจับและควบคุม
การแจ้งการควบคุมตัว และการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว พ.ศ. 2566 และพิจารณาร่างแบบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2515 (ปท.1)
พ.ต.อ.ทวี กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างการประชุม ว่า พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พรก.ฉุกเฉิน ถ้าไปถามข้าราชการ ข้าราชการก็อยากจะได้ แต่ถ้าไปถามประชาชน ภาคประชาสังคม หรือท่านนายกฯ ก็จะเป็นประเด็น สำหรับประชาชนในภาคใต้ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา เวลาจับตามกฎอัยการศึก 7 วัน แล้วจากนั้นก็ไปอยู่ พรก.ฉุกเฉิน อีก 30 วัน พอพ้น 37 วัน ก็ไปเริ่มเหมือนคนอื่น ไปเริ่มประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ ป.วิ.อาญาฯ
โดยคราวนี้ในกระบวนการ 7 วัน หรือ 30 วัน การค้นหาความจริงที่สำคัญ คือ ส่วนใหญ่แล้วมีผู้ได้รับผลกระทบมากมาย ส่วนที่รัฐบาลจะต่อเวลาเนื่องจาก ครม. เราเข้ามาเร็วไป ถ้าจะต่อก็ควรจะต่อสักเดือนเดียว แล้วเมื่อจะครบระยะเวลาเดือนเดียว ก็ให้คณะ หรือให้รองนายกฯ ที่เป็นประธาน ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคง ลองประเมินดูว่า พอครบเดือนแล้ว จะต้องยกเลิกหรือไม่ หรือจะทยอยยกเลิกตามแผน ในปี พ.ศ. 2570 ซึ่งจะอีกนาน ก็อยากให้พิจารณา
และพระราชบัญญัติเรื่องความมั่นคงที่ออกมาหลังปี พ.ศ.2551 ซึ่งตอนนั้นออกมาเพื่อจะยกเลิก พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็เหมือนว่าออก พรก.ฉุกเฉิน เพื่อยกเลิกกฎอัยการศึก ยิ่งออกยิ่งใช้คู่กันไปหมด ก็เลยต่อ และท่านนายกฯ ก็จะให้ยกเลิกที่กะพ้อ 1 อำเภอ แค่เดือนเดียว และในอีก 1 เดือน คงจะต้องมาพิจารณาว่าควรจะต่อหรือไม่
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า แต่เมื่อเกิดพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ก็อยากให้พิจารณาดูว่าจะมีศักดิ์สูงกว่า กฎอัยการศึก หรือ พรก.ฉุกเฉิน หรือไม่ เพราะว่าสิ่งที่ถูกทำให้มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ อย่างการเอาตัวไป 37 วัน เพื่อไปค้นหาความจริงจากผู้ที่จะถูกจับ ให้เขารับสารภาพ ให้เขาเล่าเรื่องพยานหลักฐาน เมื่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายเกิดขึ้นมา กฎหมายใหม่ จะมายกเลิกกฎหมายเก่าหรือไม่ ฝากช่วยพิจารณา
"พระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย นั้น ประชาชนฝากความหวังไว้สูง ดังนั้นกฎหมายจะดีแค่ไหน ถ้าผู้ปฏิบัติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีความรับผิดชอบ หรือไม่จริงจัง หรือไม่สัตย์ซื่อต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย มันจะเหมือนกฎหมายดี ๆ จำนวนมาก ที่เกิดมาแล้วไม่ได้ใช้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่คาดหวังของประชาชนครับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว