22 สิงหาคม 2566 นอกจากจะเป็นวันที่อดีตนายกคนแดนไกล อย่าง "นายทักษิณ ชินวัตร" ประกาศจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ยังเป็นวันที่มีความสำคัญกับ"พรรคเพื่อไทย"ไม่แพ้ไปกว่ากัน เพราะตรงกับวันนัดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกฯ ซึ่ง"พรรคเพื่อไทย" จะเสนอชื่อ"เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกฯ ในการโหวตครั้งนี้
แน่นอนว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ ถูกจับตามองและเชื่อว่ามีนัยความหมายที่เกี่ยวโยงกัน แม้อดีตนายกฯทักษิณ จะอ้างว่ามีคนไปดูฤกษ์ยามให้ว่าเป็นวันดี ไม่เกี่ยวใดๆกับวันโหวตก็ตาม
ในการ"โหวตนายกฯ"ครั้งนี้ การจะได้มาซึ่งเสียงสนับสนุน 375 เสียง นอกจากเสียงจาก สส. แล้ว เสียงของ สว.ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีความสำคัญและมีความหมายสำหรับพรรคเพื่อไทย ซึ่งพบว่าเสียงสะท้อนฝั่ง สว. พบว่ายังมีความเห็นที่หลากหลาย บางส่วนพร้อมให้การสนับสนุน ขณะที่บางส่วนยืนยันว่าพร้อมจะขัดขวางการนั่งเก้าอี้นายกฯ ของ"นายเศรษฐา" อย่างเต็มที่
นอกจากเสียงจาก สว. ยังต้องรอลุ้นแล้ว "ทิศทางการโหวตนายกฯ" ก็มีความน่าสนใจ "รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิเคราะห์ในเรื่องนี้ผ่าน"เนชั่น ออนไลน์" ไว้อย่างน่าสนใจ
3 ทิศทางที่จะเกิดขึ้น
โดยมองว่าทิศทางการโหวตนายกฯในวันที่ 22 สิงหาคม นี้ หลักๆขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการดีล กันระหว่างชนชั้นนำทางการเมือง หรือ คณาธิปไตย ซึ่งจะมีโอกาสทั้งลงตัว ไม่ลงตัว ขัดแย้ง ต่อรอง ทรยศ หักหลัง
1.กรณีที่ดีลดลงตัว นั่นจะทำให้"นายเศรษฐา"ผ่านฉลุย และ"นายทักษิณ"กลับบ้านได้ด้วยความมั่นใจ เพราะมี"นายเศรษฐา"เป็นนายกฯ แม้จะสั่งการยาก แต่ก็ยังสั่งการได้
2.กรณีที่ดีลไม่ลงตัว อาจมีการต่อรอง ซึ่งจะทำให้"อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร"เป็นนายกฯ เพื่อให้ฟากฝั่งหนึ่งมีความสบายใจว่า ถ้าเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล แล้วนายกฯคืออุ๊งอิ๊งค์ เพื่อไทยจะต้องไม่กลับลำไปตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล
“เพราะเวลาจัดตั้งรัฐบาล เขาต้องเลือกนายกฯก่อน พอเลือกนายกฯแล้ว นายกฯสามารถที่จะเลือกพรรคอะไรก็ได้มาตั้งรัฐบาลร่วม ซึ่งอาจผลักขั้วอำนาจเดิมทิ้งก็ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การเลือกนายกฯขึ้นอยู่กับการต่อรอง เพราะหากไม่ลงตัว ก็ต้องอยากให้คุณทักษิณกลับมาเพื่อเป็นตัวประกันในคุก ว่าจะไม่เบี้ยว”
กรณีที่ 3. อาจจะพลิกไปเลย คือ หักหลังกันเต็มที่ หลังจากคุณทักษิณกลับเข้ามา ติดคุกเลย และเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้อำนาจไหลไปหา "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" แล้วใช้โอกาสนี้"ยุบพรรคเพื่อไทย" เพราะถ้ายุบในห้วงเวลานี้ กระแสมวลชนที่จะออกมาต่อต้านกน้อยลงเต็มทีแล้วสำหรับเพื่อไทย ณ เวลานี้
ดังนั้น ทิศทางที่จะเกิดขึ้นทั้ง 3 อย่างนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเดียวว่ากลุ่มคณาธิปไตยดีลกันจบหรือยัง
21 ส.ค. ชูวิทย์แถลง-พรรคเพื่อไทยแถลง มีส่วนกำหนดชะตา
ส่วนการแถลงข่าวของ"นายชูวิทย์" EP.3 ที่จะมีการแถลงในวันนี้ (21 สิงหาคม ) รวมถึงแถลงของพรรคเพื่อไทยที่จะมีขึ้นในวันเดียวกันนั้น
ในส่วนของ"พรรคเพื่อไทย" จะต้องมีการแถลงยืนยันให้ชัดว่าในการจัดตั้งรัฐบาลมีพรรคใดบ้าง และพรรคเหล่านั้นจะได้ตำแหน่งอะไรบ้าง ต้องระบุกันให้ชัดเจนขนาดนั้น เพื่อเป็นการทำสัญญาประชาคมกัน อย่างน้อย จะเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการทรยศหักหลัง เพื่อทำให้คุณ" ทักษิณ" สามารถกลับบ้านได้ กลุ่มคนที่เป็นขั้วอำนาจเก่าก็คลายความกังวลใจ
แต่หากการแถลงของ"ชูวิทย์" มีข้อมูลใหม่ อาจทำให้แคนดิเดตเปลี่ยน คือเปลี่ยนเฉพาะ"เศรษฐา"เป็น"อุ๊งอิ๊งค์" ซึ่ง"อุ๊งอิ๊งค์"โดยหลักแล้ว มีความชอบธรรมมากกว่า"เศรษฐา"อยู่แล้ว เพราะได้รับคะแนนนิยมสูงกว่ามาตลอด และไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธว่าไม่พร้อม ถ้าไม่พร้อมก็ไม่สมควรที่จะรับตำแหน่งแคนดิเดตนี้ตั้งแต่ต้น
ดังนั้นโอกาสที่จะตั้งรัฐบาลจะง่ายกว่านายเศรษฐา เพราะขั้วอำนาจเก่าสบายใจ อย่างน้อยทักษิณติดคุกอยู่เป็นตัวประกัน และอุ๊งอิ๊งค์เป็นนายกฯ ที่ถูกกำกับอีกชั้นหนึ่งของขั้วอำนาจเก่า ถ้ามีการบิดพลิ้วขึ้นมา จะลำบากทั้ง"อุ๊งอิ๊งค์"เองและทั้งคุณพ่อของเธอ รวมถึง"พรรคเพื่อไทย" ซึ่งคิดว่าแนวทางนี้ฟากอำนาจขั้วเก่าก็โอเคมากกว่า
“วันที่ 22 ส.ค. สุดท้ายแล้วเพื่อไทยจะเสนอใครเป็นนายกฯนั้น ก็ต้องดูว่าสิ่งที่ชูวิทย์จะมาเปิดโปงในวันที่ 21 ส.ค.จะหนักหน่วงแค่ไหน จะทำให้ สว. รับได้มากหรือเปล่า เพราะเกมนี้ผมมองว่ายังซับซ้อนอยู่ อย่าลืมว่า สว.อยู่กับ 2 ป. แต่ 2 ป.นั้น อีกหนึ่ง ป. เขาอยากจะได้อำนาจมากกว่านี้ หากเลือกไปเสร็จ แล้ว สว. จะอ้างสารพัดเหตุผล ไม่ผ่านให้ ทั้งเศรษฐา ทั้งอุ๊งอิ๊งค์ อำนาจไหลไปหาพล.อ.ประวิตรและนายอนุทินทันที เพราะ สว. เขาต้องการทำงานเพื่อที่จะเปิดทางให้นายกฯคนที่เขาอยากได้ มามีตำแหน่ง"
"ดังนั้นชื่อที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอในวันที่ 22 สิงหาคม จะต้องคิดและไตร่ตรองอย่างรอบคอบให้มาก ว่าชื่อนี้เสนอมาแล้วจะได้แน่ๆ เพราะตอนนี้เกมเพื่อไทยยังเป็นรอง อะไรๆก็เหมือนต้องฟังพลังประชารัฐ รวมใจสร้างชาติ และภูมิใจไทย"
"รศ.ดร.โอฬาร" ยังมองว่า ตอนนี้ดีลต่างๆ และเสียงการสนับสนุนยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่สามารถการันตีอะไรได้ แม้กระทั่งในพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเป็นเอกภาพหรือไม่ เพราะมีหลายกลุ่มที่ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี และกลุ่มเหล่านั้นเป็นกลุ่มที่จ่ายเงินให้กับพรรค ฉะนั้นยังมีความขัดแย้งกันอยู่มาก จึงไม่ง่าย และทำให้จำเป็นต้องเอานายทักษิณกลับมา เพื่อมาต่อรองเป็นตัวประกันในทางการเมือง
"แล้วคุณทักษิณก็เห็นว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายด้วยที่จะได้กลับ ถ้าไม่ได้กลับมาเที่ยวนี้ โอกาสกลับจะไม่มีแล้ว เหมือนที่คุณอุ๊งอิ๊งค์พูดไว้ในเพลงว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"
"เศรษฐา" ยังศึกหนัก
ส่วนคุณสมบัติของ"นายเศรษฐา"ที่โดนถล่มหนัก "รศ.ดร.โอฬาร" ให้มุมมองว่าโดยสถานะ แคนดิเดตเขาเป็นได้ แต่ถ้าจะเป็นต้องชี้แจงกับสังคมให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาเพียงแค่ออกคลิป 7 นาที แล้วพยายามจะบอกว่าโดนแบล็คเมล์มันยังไม่พอ ในโลกปัจจุบันถ้าชี้แจงต้องชี้แจงผ่านข้อมูลหลักฐาน จนทำให้ประชาชนคลายความสงสัยว่าสิ่งที่นายเศรษฐาโดนกระทำนั้น เป็นการกลั่นแกล้งหวังผลทางการเมืองจากชูวิทย์ แล้วมาสัมทับกับการที่นายเศรษฐาไม่พร้อมจะไปชี้แจงในสภา โดยพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยคล้อยตามว่าไม่มีข้อบังคับที่จะต้องเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์
"อันนี้ผมมองว่าเป็นสิ่งที่พลาดมาก เพราะเป็นโอกาสสำคัญที่คุณเศรษฐาจะชี้แจงกับตัวแทนประชาชนผ่านรัฐสภา ถ้าโดยถล่มแล้วเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลย มาตรฐานทางจริยธรรมจะทำลายความชอบธรรมของการเป็นนายกฯ ของคุณเศรษฐาเอง"
นายกฯ ชื่ออุ๊งอิ๊งค์ ไม่ง่าย
หากนายกฯ ตกที่ชื่ออุ๊งอิ๊งค์ แม้ว่า จะทำให้ขั้วอำนาจเก่าเหมือนมีตัวประกัน 2 ตัว คือ "อุ๊งอิ๊งค์และทักษิณ" ซึ่งจะทำให้สบายใจว่าไม่หักหลังกันแน่นอน เพราะถ้าหักหลังจะพังกันหมดโดยเฉพาะ"พะรรคเพื่อไทย" และ"ตระกูลชินวัตร" เพราะมีเรื่องตามมาอีกเยอะ เช่นเรื่อง"ยุบพรรคเพื่อไทย" ตอนนี้ขั้วอำนาจเก่าก็ได้จังหวะได้โอกาสคงไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ
ก่อนหน้านี้เขาประเมินในทางการเมืองให้"ยุบพรรคเพื่อไทย" จะมีกระแสต่อต้าน แต่วันนี้เป็นจังหวะที่ดีมาก เพราะกระแสของ"เพื่อไทย" ตก ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ประชาชนขับไล่ ประชาชนไม่เห็นด้วยกับแนวทางหรือไม่เห็นด้วยกับการตระบัดสัตย์ของผู้นำทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย นี่จึงเป็นโอกาสของฝ่ายอำนาจเก่าที่จะยุบพรรคเพื่อไทยทิ้ง
"ถ้าไปถึงจุดนั้น คุณทักษิณติดคุกก็ทำอะไรไม่ได้ คุณอุ๊งอิ๊งค์อยู่ในสภาวะที่จะต้องหาพรรคใหม่ นั่นคือการปิดเกมชินวัตรกับเพื่อไทย และดีไม่ดีถ้าคุณอุ๊งอิ๊งพลาดมา ติดคุกอีกคนจบเลย"
"คณาธิปไตยมันทำได้หมด โหดร้ายกว่าที่เราคิด ต่อรองได้ ทะเลาะได้ ขัดแย้งได้ และจะเชื่อว่าจะเล่นเกมโหดกันมากกว่านี้ การที่คุณทักษิณกลับมาเกมที่โหด ในระดับหนึ่ง คือไม่รู้ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร ดูเหมือนดีลลับสำเร็จ แต่ถ้าดูดีๆเหมือนจะไม่สำเร็จ ถ้าดูดีๆก็เหมือนกลับมาเพื่อวัดดวงกัน" รศ.ดร.โอฬาร กล่าวทิ้งท้าย
แต่สุดท้ายแล้วย้ำว่า ทิศทางโหวตนายก วันที่ 22 สิงหาคม นี้ จะเป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทย จะต้องผ่านวันที่ 21 สิงหาคม ไปให้ได้เสียก่อน