svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อนุสรณ์" เหน็บ "ณัฐชา" เสียดาย "พิธา" รวมเสียงได้ 376 ก็มีรัฐบาลแล้ว

"อนุสรณ์" เหน็บ "ณัฐชา" เสียดาย "พิธา" รวมเสียงได้ 376 ก็มีรัฐบาลแล้ว ฟาดกลับ ความกลัวทำให้เสื่อม ระบุ ขอให้เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจให้ดีที่สุด ชี้ที่ผ่านมาให้ก้าวไกลเต็ม 100 ตลอด

1 สิงหาคม 2566 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุ พรรคก้าวไกล ไม่โง่ ตามเกมสกปรก ลักหลับ บีบ 151 เสียงโหวตว่า น่าเสียดายที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 376 เสียง ถ้าสามารถทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ป่านนี้ประเทศไทยคงได้คณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศแล้ว

ใครจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิ แต่ต้องไม่ลืมว่า 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย โหวตให้นายพิธา 100 เปอร์เซ็นเต็ม ไม่มีแตกแถวแม้แต่เสียงเดียวทุกครั้ง แม้ถึงวันนี้พรรคเพื่อไทยมีที่นั่งห่างจากพรรคก้าวไกลเพียง 8 ที่นั่ง และมีแนวโน้มที่ระยะห่างจะใกล้เข้ามาอีก แต่พรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วยดีมาตลอด แม้แต่กรณีโหวตรองประธานสภาจากพรรคก้าวไกลก็ 141 เสียงเต็มพิกัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

“ความกลัวทำให้เสื่อม อย่ามัวแต่ฟาดงวงฟาดงา ถ้าพอมีเวลาลองไปถอดบทเรียนจากผลนิด้าโพล ที่ชี้ประชาชนมองพรรคก้าวไกลผิดพลาด เพราะไม่ยอมยกเลิกบางนโยบาย ไม่ใช่ไปโทษทุกคน แล้วตัวเองไม่ยอมปรับตัว สิ่งใดทำผิดก็ปรับแก้ทำใหม่”

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อ ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เคยมีใครพูดว่าหลังเลือกตั้งจะโหวตนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียว แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเป็นแบบนี้ แม้กองเชียร์แฟนคลับพรรคเพื่อไทยจำนวนมากจะไม่สบายใจ แต่ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยก็โหวตให้นายพิธา เต็ม 100 เปอร์เซ็นทุกครั้ง พรรคก้าวไกลเคยเสนอ สส.ซีกพรรครัฐบาลเดิม ต้องเคารพฉันทามติจากประชาชน โหวตเลือกพิธาเป็นนายกฯ เพื่อปิดสวิตช์สว.แล้วกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ทำไมพอจะโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยบ้าง ถึงสร้างเงื่อนไขขึ้นมา

ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหาเลย เพียงแต่จะนำข้อหารือจากพรรคการเมืองต่างๆเข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคให้ได้ร่วมกันตัดสินใจ ไม่ควรมีใครใช้วิธีขอเสียงสนับสนุนไป ต่อว่าไป เราจะขอเสียงจากเขา โดยไม่คุยกับใครเขาเลยได้อย่างไร

“ภายใต้สถานการณ์ที่มีข้อจำกัด ขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจให้ดีที่สุด โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ” นายอนุสรณ์ กล่าว

ส่วนกรณี นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ควรย้ำจุดยืนให้ชัด แก้-ไม่แก้ ม.112 ว่า น่าเสียดายที่ประชาชนไปเลือกตั้งมาจะครบ 3 เดือน ยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีมาทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตให้ประเทศ การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ขอให้ทุกฝ่ายยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ให้ประเทศไทยได้ไปต่อ ไม่ควรมีใครสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส

นายเศรษฐา ยืนยันอย่างชัดเจนว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี ต้องเจรจาให้เหมาะสม และส่วนตัว ยอมรับการแก้มาตรา 112 ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ พรรคที่จะเสนอนายกฯ ครั้งต่อไปต้องไม่มีเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา112  ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. และจากหลายๆ พรรค ประชาชนเห็นจุดยืนของนายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ที่จะไม่ยกเลิก ไม่แก้ไข ม.112 ชัดเจน

“ผลสำรวจ100 ซีอีโอ ระบุชัด ประเทศไทย ต้องไปต่อ ไม่ควรรอ 10 เดือน โอกาสครั้งสำคัญที่สส.สว.จะนำพาประเทศออกจากวิกฤต มาถึงแล้ว” นายอนุสรณ์ กล่าว