26 กรกฎาคม 2566 น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีการแชร์ภาพนั่งชันเข่าระหว่างการประชุมสภาฯ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมว่า ตั้งแต่รับตำแหน่ง สส.ไม่มีวันไหนที่หยุดงาน โดยทำงานทั้งในพื้นที่และในสภาฯอย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถือว่า ให้เกียรติประชาชนในรูปแบบของตน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องท่านั่งไม่เหมาะสม ขอให้ไปโฟกัสที่เรื่องเนื้อหาการประชุมจะดีกว่า หากจะมานั่งด่ากันเรื่องท่านั่ง ขอให้เอาเวลาไปให้ความสำคัญกับประเด็นญัตติสภาที่ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญจะดีกว่า จะเป็นการโฟกัสที่ถูกเรื่อง ประชาชนอยากรู้ว่าจะแก้ปัญหาให้อย่างไร
แมนๆคุยกัน "รักชนก" แท็กถาม "วัน อยู่บำรุง" ทำไมลูกน้องพี่ชอบมีปัญหากับไอซ์
ส่วนกระแสสังคมมองถึงเรื่องมารยาทสากลในฐานะสมาชิกรัฐสภา นั้น หากพูดถึงมารยาทสากล ตนยังไม่ถึงขั้นเอาขามาวางไว้บนโต๊ะ ยืนยันว่าเป็นช่วงเวลาระหว่างเปลี่ยนอิริยาบถ กำลังจะเปลี่ยนท่านั่ง อีกทั้งการประชุมในวันดังกล่าว ประชุมตั้งแต่เช้ายันเย็น การจะเปลี่ยนท่านั่งบ้าง ไม่ควรจะเป็นประเด็น อย่ามาโจมตีกันเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ แบบนี้ หากอภิปรายไม่ดี ถ้าทำงานในพื้นที่บกพร่อง แล้วมาด่าจะแถลงขอโทษเลย
ขณะที่ประเด็นนี้ ประธานสภาฯเตือนในการสัมมนา สส.ใหม่วันนี้ เรื่องการปฏิบัติตัวระหว่างทำหน้าที่ในสภาฯ ด้วยนั้น น.ส.รักชนก กล่าวว่า ในฐานะประธานสภาฯ มีหน้าที่ควบคุมสถานที่แห่งนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเตือนเรื่องอะไรยินดีที่จะรับฟัง และเมื่อเป็นประเด็นท่านได้หยิบยกขึ้นมาเตือน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่หากจะเตือนเรื่องท่านั่ง คนที่นอน หรือคนที่ดูอะไรที่ไม่เหมาะสมในสภา ก็ขอให้ฝากเตือนด้วย
น.ส.รักชนก กล่าวว่า “ถ้าสมมติว่า พ่อแม่พี่น้องประชาชนรู้สึกว่า ผิดหวังกับไอซ์ที่นั่งท่านี้” พร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ถ้ารู้สึกผิดหวังที่นั่งท่านี้ ก็ขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้ไม่สบายใจ ขอโทษที่อาจจะทำตัวไม่น่ารักให้โดนตำหนิได้ จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นค่ะ ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้เตรียมตัวเกิดมาเพื่อเป็นนักการเมือง แต่พร้อมที่จะทำตัวให้มีวุฒิภาวะเพิ่มมากขึ้น พยายามเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น ก็จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นแน่นอน”
ส่วนได้เคลียร์กับนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม.พรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า “ตนไม่ได้มีปัญหากับพี่วัน เพราะพี่วันเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ไอซ์ก็ชื่นชมในการทำงานของพี่เขา แต่ที่มีปัญหาคือ คนที่อยู่รอบตัวแกมากกว่า บางทีการมีบริวารห้อมล้อมเยอะ บริวารก็พยายามเอาใจเจ้านายด้วยวิธีผิด ๆ หากไม่ตักเตือนห้ามปราม สุดท้ายคนที่เสีย ก็เป็นตัวเอง”
ส่วนมองว่าเป็นการข่มขู่กลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า การด่านักการเมืองเป็นเรื่องที่ทำได้ หากทำตัวไม่เหมาะสม สนับสนุนให้ด่านักการเมืองเยอะๆ หรือหากจะใช้คำสุภาพคือ สนับสนุนให้ตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองเยอะ ๆ ดีใจที่คนให้ความสนใจการเมืองกันเยอะ และประชาชนตื่นตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพดังกล่าว มีการตรวจสอบแล้วหรือไม่ว่าจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า วันนั้นเท่าที่จำได้ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น และจำหน้าได้ แต่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ในขณะถ่าย อาจจะแค่ถ่ายเฉยๆให้เพื่อนดูแล้วมีคนเอาไปลงก็ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องการอะไร
ทั้งนี้ การแสดงออกดังกล่าว กระทบต่อภาพลักษณ์โดยรวมของรัฐสภา จะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ตัวเองเพื่อให้เป็นแบบอย่างกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้ามาทำงานทางการเมืองในสภาฯในอนาคตหรือไม่ น.ส.รัชนก กล่าวว่า เป็นเพราะตนเป็น สส.หน้าใหม่ในวงการการเมือง และเป็นผู้หญิงในบทบาทนักการเมือง มักถูกตั้งคำถามมากกว่าผู้ชายเสมอว่า เราจะต้องมีผลงานที่ดีกว่าหรือไม่ จะต้องมีความประพฤติที่ดีกว่าหรือไม่ ซึ่งรู้สึกว่าเป็นปัญหาในสังคมปิดตาธิปไตย ที่คาดหวังสูงกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้ง ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หรือ LGBTQ+ ควรจะถูกคาดหวังและถูกปฏิบัติพอ ๆ กัน
"จำไม่ได้บ้างว่า ใครที่นั่งหลับในสภา หรือใครที่ดูหนังโป๊ในสภา จะมีคนมาจ่อไมค์สัมภาษณ์มากขนาดนี้ ดังนั้น จึงรู้สึกว่าหากเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในสภา ก็ขอให้พอหอมปากหอมคอ และขอให้ไปโฟกัสในประเด็นที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าวดีกว่า อย่าเอามานั่งเป็นประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ โจมตีทางการเมือง" น.ส.รักชนก กล่าว