18 กรกฎาคม 2566 "นายชัยธวัช ตุลาธน" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวก่อนการประชุมร่วมกับผู้แทนพรรคการเมือง และวิปวุฒิสภา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ถึงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนไม่เห็นด้วยหาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะเสนอชื่อ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจาก ถูกรัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบไปแล้ว ว่า 8 พรรคร่วมได้ตีความร่วมกันแล้วว่า ไม่สามารถตีความการเสนอชื่อนายพิธา เป็นญัตติได้ เพราะกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติขั้นตอน และหลักเกณฑ์ไว้ชัดเจน คล้ายกับการคัดเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งกรรมการองค์กรอิสระ ซึ่งบางครั้งก็มีการเสนอชื่อซ้ำได้
ส่วนหากไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ได้ พรรคก้าวไกลจะให้สิทธิการจัดตั้งรัฐบาลแก่พรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า 8 พรรคร่วมยังไม่ได้มีการหารือกันในประเด็นดังกล่าว แต่พรรคก้าวไกล มุ่งมั่นที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ซึ่งหากมีการลงมติครั้งที่ 2 ไปแล้ว แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ไม่สามารถบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมได้ทันการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 หรือพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสแล้วจริง ๆ ก็ต้องเปิดโอกาสให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ด้วยการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่หากมติที่พรรคก้าวไกลได้รับเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ก็จะยังคงเดินหน้าต่อในการลงมติครั้งที่ 3 เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคร่วมฯ สำเร็จ
สำหรับกรณีที่หากพรรคร่วมเสียงข้างน้อยเสนอชื่อ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชิงตำแหน่งนายกฯในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่ได้กังวล และได้ติดตามสถานการณ์ตลอด โดยเชื่อว่า ไม่เป็นไปได้ แม้จะสามารถเสนอชื่อได้ แต่ไม่น่าจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาเอง ก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ และ 10 พรรคร่วมฯ 188 เสียง ก็ไม่มีเอกภาพในเรื่องดังกล่าว จึงไม่น่ากังวลใด ๆ
ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณารับคำร้องการถือครองหุ้นสื่อมวลชนของนายพิธา หลัง กกต.ได้ยื่นเรื่องไปก่อนหน้านี้ วิป 3 ฝ่ายจะมีการหารือกันในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ไม่น่าจะหารือกัน เพราะไม่ได้เกี่ยวกับข้องกระบวนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และเมื่อปี 2562 ที่"นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในการประชุมรัฐสภาในขณะนั้นด้วย
นายชัยธวัช กล่าวถึงการติดต่อกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อพูดคุยถึงการลงมติเลือกนายกฯนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะตนเองเพียงแต่ได้พยายามติดต่อ "นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน" รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แต่นายเฉลิมชัยไม่ได้รับสาย เพื่อสอบถามท่าทีพรรคประชาธิปัตย์ หลังเกิดกระแสข่าว จะมีการเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกฯจากเสียงข้างน้อย ซึ่งไม่ใช่การรวมเสียงกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด