6 มิถุนายน 2566 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนการถือครองหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯว่า เรื่องนี้มีหลายคนไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่านายพิธา มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญที่จะเป็นนายกฯต่อไปได้หรือไม่
ซึ่งกมธ.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องเดียวกับที่มีผู้ไปร้องกับกกต.แล้ว จึงเห็นว่าจะส่งเรื่องให้กกต. เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ต้องหาข้อยุติโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา และมีผลกระทบอีกจำนวนมาก
โดยทาง กมธ.จะทำหนังสือแจ้งไปยัง กกต. เพราะเห็นแล้วว่ามีมูล มีข้อเท็จจริงและมีหลักฐาน จึงต้องการให้กกต.เร่งรัดในการเสนอเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชี้ขาดเพื่อความชัดเจนในการที่จะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ เพราะอย่างน้อยที่สุดการที่ศาลได้ตัดสินวินิจฉัยชี้ขาดจะเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศและของคนหมู่มาก
“หากรอไปจนถึงขั้นตอนของวุฒิสภาลงมติโหวตนายกฯ เกิดวุฒิสภาไม่เห็นชอบหรือไม่เห็นด้วย ก็จะเกิดความไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงขอให้กกต.เร่งรัดรวบรวมหลักฐานส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการต่อไปก่อนที่จะถึงกำหนดวันเลือกนายกฯ” นายเสรี กล่าว
เมื่อถามว่าแสดงว่าที่ประชุมกมธ.เห็นว่านายพิธา ขาดคุณสมบัติแล้วใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ถ้าดูตามหลักฐาน ข้อกฎหมาย และข้อบังคับของพรรคก้าวไกล มีมูลว่านายพิธา ขาดคุณสมบัติตั้งแต่เป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่สมัครรับเลือกตั้ง และถ้าขาดคุณสมบัติรับเลือกตั้งก็มีผลกับการไปรับรองผู้สมัครให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องเหล่านี้เป็นข้อมูลหลักฐานที่ปรากฎต่อสาธารณะชนอยู่แล้ว
ดังนั้น สิ่งที่ กกต.ต้องทำตอนนี้ คือ ต้องเร่งรัดให้ข้อยุติ หรือจะรับรองส.ส. ให้เสร็จโดยเร็ว และรีบส่งเรื่องเหล่านี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว เพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโอกาสที่บ้านเมืองจะเรียบร้อยมีสูง เพราะทุกคนเคารพ และยอมรับในกติกาของประเทศ และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางที่ดีที่สุด