svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

วุ่นแล้ว! ถ้า "พิธา" พ้นตำแหน่งหัวพรรค ผู้สมัครส.ส. 500 คน ชอบด้วยกม.หรือไม่

"เรืองไกร" ยื่น กกต. สอบเพิ่มปม "พิธา" ถือหุ้นสื่อ ต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือไม่ หากผิดจริง ผู้สมัครส.ส. 500 คน ที่หัวหน้าพรรคเซ็นรับรอง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมให้กำลังใจ "พี่ศรี" ลั่น ไม่นิยมความรุนแรง

11 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. ในกรณีการถือหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล โดยระหว่างจะสัมภาษณ์ ได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกผู้เห็นต่างทำร้ายจนเลือดออกปาก ซึ่งนายเรืองไกรมีท่าทีตกใจ ทำให้ต้องขอเปลี่ยนจุดให้สัมภาษณ์เป็นหน้าจุดรับยื่นหนังสือแทน

 

นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำข้อบังคับของพรรคก้าวไกลมายื่นเพิ่มเติม และจับประเด็นว่า นายพิธาจะพ้นจากสมาชิก และหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพราะข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีการแก้ไขลงในราชกิจจานุเบกษา ปี 2563 ซึ่งข้อบังคับพรรคในข้อ 12,21,37 ซึ่งในข้อ 12 ระบุว่าสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ดังนั้นเมื่อระบุเช่นนี้ มาตรา 98 (3) ก็จะทำให้พ้นสมาชิกหรือไม่ และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งหัวหน้าพรรค ก็จะต้องขาดจากความเป็นหัวหน้าพรรคโดยสิ้นสุดเฉพาะตัว รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อที่ 36

ตนจึงได้ตั้งข้อสังเกตให้ กกต. ตรวจสอบในกรณีที่ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายว่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็น ส.ส. รวมถึงเป็นสมาชิกพรรค และหัวหน้าพรรคไม่ได้ ซึ่งผลที่ตามมาในการสมัครเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3-7 เม.ย. ที่ผ่านมา นายพิธาได้เซ็นรับรองการสมัคร ส.ส. เกือบ 400 เขตและส.ส. บัญชีรายชื่อ ดังนั้นจึงขอให้กกต. ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าการยื่นบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครส.ส. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ขอให้กกต. ดำเนินตามกฎหมายต่อไป

เมื่อถามว่า ถ้านายพิธามีความผิดจริง และได้ไปเซ็นรับรองการสมัครส.ส. ของพรรค ถ้าเป็นเช่นนี้การสมัครนั้นจะเป็นโมฆะใช่หรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ก็ให้กกต. ตรวจสอบว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องถอดสมการว่า การเป็นหัวหน้าพรรคพ้นไปหรือยัง เพราะในข้อบังคับเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน แล้วนายพิธาก็ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า เรื่องนี้รู้มาตั้งนานแล้ว ซึ่งพรรคเคยมาปรึกษาตนแต่ไม่ได้ยกประเด็นหลักในการปรึกษา แต่ถึงอย่างไรตนก็ได้ให้ความรู้เรื่องกฎหมายไป ตนไม่ได้เลือกที่รักมักที่ซัง

ส่วนที่นายศรีสุวรรณถูกทำร้ายร่างกาย นายเรืองไกร กล่าวว่า “ผมไม่นิยมความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ ซึ่งก็ระมัดระวังตัวอยู่ ผมขอให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ ในฐานะที่เราใช้สิทธิ์และถูกทำร้ายร่างกายเป็นครั้งที่ 2 ผมไม่อยากให้เกิดตัวอย่างเช่นนี้ในสังคม คนที่บอกว่าอยากได้ประชาธิปไตย แต่ใช้คำหยาบ คำลามก ใช้การกระทำที่ส่อว่าฝ่าฝืนกฎหมาย เช่นที่สถานีตำรวจเมื่อวานนี้(10 พ.ค.) ผมไม่เห็นด้วย ผมอยู่มาทุกม็อบ ไม่สนับสนุนเรื่องอย่างนี้ เขาใช้สิทธิ์แต่ละคนเมื่อถูกดำเนินคดีก็ร้องแรกแหกกระเชอกันไป ก็เอาคำพิพากษาคำฟ้องมาตรวจสิ ถ้ามันไม่ผิดคดีอาญามีข้อสงสัย ศาลท่านก็ตัดสินไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปบิด การทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข สงบอยุ่ด้วยรู้รักสามัคคีต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ผมฝากไว้แค่นี้”