แม้การเลือกตั้งยังไม่เริ่มต้น แต่จากการอ่านหมากในกระดานการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” นายกสมาคมรัฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เห็นถึง “ความน่าจะเป็น” ของผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไป โดยอาจารย์ได้บอกเล่ากับ Nation Online พร้อมวิเคราะห์และฟันธง ดังต่อไปนี้
บิ๊กป้อม VS บิ๊กตู่ ชิงดำ ตำแหน่งนายกฯ
ก่อนหน้านี้ “รศ.ดร.ธนพร” ได้วิเคราะห์ว่า “พรรคเพื่อไทย” ถึงแม้จะได้ ส.ส. มากที่สุด แต่ไม่ถึงขั้นแลนด์สไลด์ (อ่านบทความ : แคนดิเดตฯ เพื่อไทย เป็นใครไม่สำคัญ สุดท้ายบิ๊กป้อมเป็นนายกฯ) ทำให้อาจารย์มั่นใจว่า ผู้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ คนต่อไป มีเพียง 2 คน เท่านั้น
ผมฟันธงว่า คนที่มีโอกาสเป็นนายกฯ มีแค่ 2 คน คือ “ลุงตู่” กับ “ลุงป้อม” ผมให้คนละ 50 % เท่ากัน เพราะว่าแฟนคลับ “ลุงตู่” ที่ชอบบุคลิกความเป็นฟาสซิสต์ติดหนวด มีจริง ขณะเดียวกันแฟนคลับ “ลุงป้อม” ที่ชอบความเป็นอนุรักษ์นิยม ชื่นชมท่าที “ลุงป้อม” รวมถึงเห็นศักยภาพในตัว “ลุงป้อม” ก็มีจริงเช่นเดียวกัน
แล้วในความเป็นจริงทั้ง 2 ท่านก็มี Backup ในเชิง “รัฐพันลึก” หรือกลุ่มพลังอำนาจในระบบการเมืองไทย ที่อาจไม่ใช่สถาบันทางการเมืองที่เรารู้จัก ก็มีจริงอีกเช่นเดียวกัน ดังนั้นชั่วโมงนี้ผมบอกเลยว่า 2 คนนี้แข่งกันว่า ใครจะได้ ส.ส. มากกว่ากัน
ถ้า “ลุงตู่” ได้ ส.ส.มากกว่า ก็เป็นนายกฯ ส่วน “ลุงป้อม” ก็ไปร่วมรัฐบาลกับ “ลุงตู่” เพราะโดยส่วนตัวแล้ว พวกเขาไม่ได้โกรธกัน แล้วบุคลิก “ลุงป้อม” ยังไงก็สนับสนุนส่งเสริม “ลุงตู่”
แต่ถ้า “พลังประชารัฐ” ได้ ส.ส. มากกว่า “รวมไทยสร้างชาติ” ลุงป้อมก็บอกว่าพร้อมที่จะเป็นนายกฯ เราเห็นลีลาความพลิ้วของ “ลุงป้อม” แล้วยังครับ
บทความที่น่าสนใจ
เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย สูตรรัฐบาลใหม่ หลังการเลือกตั้ง ?
“รวมไทยสร้างชาติ” กับจุดขาย “ขวาจัด” ปังหรือแป้ก ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ?
หมากของ “ลุงป้อม” ได้ทุกกระดาน หมากของ “ลุงตู่” แพ้ก็จบเกม
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ นั่นก็คือการดีไซน์เกมการต่อสู้ของ “ลุงป้อม” ที่มีแต่ได้ ชนะก็เป็นนายกฯ แต่ถึงแพ้ก็ยังได้เป็นรัฐบาล ในขณะที่ “ลุงตู่” ต้องชนะเท่านั้น
ถ้ามองในเชิงความอ่อนตัว ลีลาอย่าง “ลุงป้อม” มันอ่อนตัวกว่า พูดง่ายๆ คือมันไม่สร้างความกดดันให้ “พรรคพลังประชารัฐ” มากเท่ากับ “รวมไทยสร้างชาติ”
เพราะสถานการณ์ของ “รวมไทยสร้างชาติ” คือ Zero Sum แพ้ก็จบเกม (ผู้แพ้ไม่ได้อะไรเลย) แต่ของลุงป้อมมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ ในการประสานงานกับอีกขั้วหนึ่งได้
และด้วย Background ของ “ลุงป้อม” ในเรื่องของความเข้าใจ “กลุ่มอีลิท” ความเข้าใจ “ระบบข้าราชการ” เข้าใจวิธีคิดของ “กองทัพ” ซึ่ง “ลุงป้อม” ไม่ได้มีน้อยกว่า “ลุงตู่” และสิ่งที่ทีมงาน “พลังประชารัฐ” เซ็ตขึ้นมา ส่งผลทำให้ “ลุงป้อม” ทำเกมได้ดีกว่า “ลุงตู่”
Quarterbacks ที่ชื่อ “ประวิตร”
รศ.ดร.ธนพร ได้เปรียบเปรยการต่อสู้ทางการเมืองกับเกมกีฬา “อเมริกันฟุตบอล” ซึ่ง Quarterbacks ที่ชื่อ “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ได้โชว์สกิลให้เห็นถึงรูปแบบการทำเกมได้อย่างหลากหลาย ในการช่วงชิงความได้เปรียบ ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง
ถ้าใครชอบดู “อเมริกันฟุตบอล” มันจะมีตำแหน่งหนึ่งที่เรียกว่า Quarterbacks ทำหน้าที่หาจังหวะขว้างบอลเพื่อให้กองหน้าวิ่งเข้า Touchdown หรือบางที Quarterbacks ก็วิ่งเข้า Touchdown เอง
ผมกำลังจะบอกว่า “ลุงป้อม” เป็น Quarterbacks ที่มีความกดดันน้อยกว่าลุงตู่ มีอิสระในการทำเกม และขว้างบอลได้หลายรูปแบบ ขณะที่ “ลุงตู่” ขว้างบอลได้รูปแบบเดียว นั่นคือรูปแบบการเล่นที่อยู่ในสนาม “ลุงป้อม” จะมีความคล่องตัวมากกว่า
แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่า วิธีเล่นแบบ “ลุงป้อม” จะชนะแน่ๆ หรือเล่นแบบ “ลุงตู่” จะไม่ชนะเลย เอาเป็นว่าชั่วโมงนี้แข่งกันอยู่ 2 คน คนอื่นยังไม่ใช่ ผมกล้าพูดเลยว่า วันนี้ ส.ว.ไม่มีใครหรอกครับที่จะยกมือให้คนอื่นนอกจาก 2 ท่านนี้ เพราะว่า ส.ว.ชุดนี้ ไม่ไว้วางใจนักการเมือง อันนี้ผมพูดอย่างตรงไปตรงมา