วันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่เขตบางคอแหลม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม.
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล โฆษกพรรคเพื่อไทย นายประภัสร์ จงสงวน นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัครเขตบางพระขโนง พร้อมด้วย น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร เขตบางคอแหลม-ยานนาวา พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ชมพื้นที่ผลิตสินค้าแบรนด์แก้วกัลยาเดโคพาท ซึ่งเป็นโอทอปขึ้นชื่อของย่านนี้
จากนั้น คณะได้ขึ้นรถสองเเถวเพื่อมาเดินรับฟังปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าตลาดชุมชนสุดประเสริฐ โดยตัวแทนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดชุมชนสุดประเสริฐได้มายื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทยเพื่อให้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า ต้นทุนการผลิต และกำลังการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
ซึ่งหนังสือระบุว่า ปัจจุบันข้าวของมีราคาแพงทำให้ต้นทุนสูง ค้าขายราคาสูงไม่ได้เพราะจะไม่มีคนซื้อ ขายราคาถูกก็ขาดทุน มีกำไรน้อย คนซื้อมีจำนวนน้อย ส่วนคนขายมีจำนวนมากกว่า ทำมาหากินยากลำบาก ไม่พอกับรายจ่าย ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ขึ้นราคา รวมทั้งก๊าซหุงต้ม ขอให้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย หากยังเป็นอยู่อย่างนี้ ประชาชนจะเดือดร้อนมากๆ
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มฯ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เราเห็นเพื่อไทยได้ตนที่มีความสามารถด้านเศรษฐกิจอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพวกเราก็รู้สึกดีใจ เพราะนายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจ ซึ่งจะเข้าใจพ่อค้าแม่ค้าว่าทำมาค้าขายยังไง ก็ขอให้นึกถึงพ่อค้าแม่ค้ารายเล็กรายน้อยด้วย
ด้าน น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจในชุมชนเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการผลักดัน เนื่องจากผู้ที่อาศัยในชุมชนมีรายได้น้อย เงินทุนไม่มาก และปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดในชุมชนเยอะ หากมีการสนับสนุนในเรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับชาวบ้าน จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น ลืมตาอ้าปากได้ และเยาวชนสามารถใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ จึงอยากจะเป็นอีกหนึ่งเสียงในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ชุมชน เพื่อกระจายรายได้สู่ทุกครัวเรือนต่อไป
ขณะที่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านในชุมชนมีศักยภาพที่ซ้อนเร้นในตัวเอง หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะผลักดันส่งเสริมให้แต่ละครอบครัวมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกได้ 1 ครอบครัวต่อ 1 ศักยภาพเพื่อเป็นการต่อยอดโครงการโอทอป นโยบายไทยรักไทยเดิม ให้ออกไปสู่ตลาดโลก เปลี่ยนจุดแข็งเป็นจุดขาย สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ให้มีรายได้ 200,000 บาท/ปี ต่อหนึ่งครอบครัว
เมื่อถามว่า หลังเปิดตัวนายเศรษฐา เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนายเศรษฐา บอกว่าไม่ถนัดในการลงพื้นที่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า สำหรับคุณเศรษฐามีความพร้อมในการลงพื้นที่แน่นอน และเราจะจัดตารางในการลงพื้นที่พบปะประชาชนพร้อมกันในโอกาสต่อไป
หลังจากรับฟังปัญหาเสร็จแล้ว แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นรถแห่จากตลาดไปมัสยิดบางอุทิศเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้นำศาสนา โดยระหว่างทางมีแฟนคลับโบกมือ ขณะที่แฟนคลับรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อได้ส่งเสียงกรี๊ดเชียร์นักการเมืองที่ตนชื่นชอบ พร้อมวิ่งตามขบวนรถแห่เพื่อมาขอถ่ายภาพด้วย