3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.อ.สุวรรณ จินดา อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาประจำผู้บังคับบัญชา และอดีตทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี อายุ 95 ปี เผยความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกวันทหารผ่านศึก ว่า ตนเคยได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ จากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งท่านเคยไปเตะฟุตบอล ที่หน้าค่ายทหารไทย
ซึ่งตอนนั้นตนได้ไปรับเหรียญที่ทำเนียบ ตนได้บอกว่า ถ้าเราคิดจะทำงานเพื่อประเทศชาติต้องทุ่มเทกำลังกายกำลังใจ และกำลังความคิด และต้องเยี่ยมเยียนประชาชน จะมานั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ได้ ทั้งนี้ ตนเคยไปรบ ซึ่งเพื่อนร่วมรบก็เสียชีวิตกันหมดแล้ว เหลือแค่ตน ส่วนเคล็ดลับอายุยืนนั้น คือ
“ยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจสนทนา วาจาไพเราะ สงเคราะห์เอื้อเฟื้อ ขาดเหลือเจือจุน ทหารเข้าใจภารกิจ มุมคิดพัฒนา ประชาเชื่อถือ ร่วมมือสามัคคี พลีชีพเพื่อชาติ”
เมื่อถามว่า อยากให้ทหารทำอะไรหรือไม่ พ.อ.สุวรรณ บอกว่า ให้ทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน อย่าทอดทิ้งประชาชน ประเทศไทยแตกความสามัคคี แบ่งเป็นสีเสื้อ ทำไมถึงไม่จับมือกัน ถ้าไทยสามัคคีดีมั่น ศัตรูหวั่นไม่กล้ามาราวี สำหรับตน "วันทหารผ่านศึก" ถือเป็นวันสำคัญ ทุกคนตื่นกันมาตั้งแต่ตี 3 อยากมาเจอพี่น้อง เพื่อน ๆ ที่เคยผ่านสมรภูมิรบมาด้วยกัน
ด้าน พลทหารฉลวย อุ่นจิตร อายุ 85 ปี พร้อมเพื่อนทหารผ่านศึกอีก 2 นาย กำลังนั่งดูรูปภาพในอดีต ในสงครามเวียดนาม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรูปของ ในหลวง ร.9 เสด็จมาเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุว่า คนในรูปคือตนเอง ตอนนั้นถูกยิงที่ท้องได้บาดเจ็บพักที่โรงพยาบาลสนาม ในหลวง ร.9 ได้เสด็จมาเยี่ยม ก่อนจะส่งตัวไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
เมื่อถามว่า จำได้หรือไม่ ในหลวง ร.9 ทรงตรัสอะไรบ้าง พลทหารฉลวย กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ไปรบเพื่อประเทศ จึงต้องมาบาดเจ็บ จากนั้น พลทหารฉลวยชู ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง ร.9 ในขณะมาเยี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ