สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ Nation Online ตั้งแต่เรื่องการเตรียมตัวสู้ศึกซักฟอกรัฐบาล ดีลลับระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคพลังประชารัฐ” รวมถึงเรื่องการกลับบ้านของ “ทักษิณ ชินวัตร” ฯลฯ โดยเขาได้ตอบทุกข้อสงสัย เคลียร์ทุกปัญหาคาใจให้กระจ่างชัด ตามสไตล์นักยุทธศาสตร์ทางการเมือง ที่มีบทบาทสำคัญในการวางหมากและเดินเกมให้ “พรรคเพื่อไทย” มาจนถึงทุกวันนี้
1. ศึกซักฟอกรัฐบาล
Nation Online : การเตรียมความพร้อมในศึกซักฟอกรัฐบาล มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ?
สุทิน คลังแสง : การเตรียมตัวเนี่ย ก็เตรียมกันมานาน เรื่องเนื้อหาเราวางกรอบไว้แล้ว คนและเนื้อหาถือว่าพร้อม โดยได้มีการประชุมรายละเอียดเพื่อให้ทุกคนได้ขัดเกลาประเด็น แล้วก็ซักซ้อมการนำเสนอ ส่วนประเด็นที่จะอภิปราย ตอนนี้คงเปิดเผยได้ในกรอบใหญ่เท่านั้น หลักๆ ก็คือความล้มเหลวในการปฏิบัติตามนโยบายที่รัฐบาลเสนอไว้ การทุจริต ความผิดพลาด การจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ถือว่าเป็นการตรวจการบ้านให้คะแนนรัฐบาลในรอบไฟนอล
บทความที่น่าสนใจ
จับตา “ทักษิณจะกลับบ้าน” ด้วยมุกเดิม ซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือใช้มุกใหม่
หักเหลี่ยมกันสุดฤทธิ์ เจาะยุทธศาสตร์หลัก และแผนสอง ของ 3 พรรคใหญ่
Nation Online : การอภิปรายฯ ครั้งนี้ไม่มีการลงมติ แล้วประชาชนสามารถคาดหวังความเข้มข้นของเนื้อหาสาระได้มากน้อยเพียงใด ?
สุทิน คลังแสง : คาดหวังได้ครับ แต่พี่น้องประชาชนต้องแยกแยะให้ออก การอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นคือ มาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบไม่ลงมติ ต่างจากมาตรา 151 ที่เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเต็มๆ (ลงมติ) ที่สามารถกล่าวหาได้ แต่การอภิปรายตามมาตรา 152 จะเป็นลักษณะการซักถาม และให้ข้อเสนอแนะในประเด็นการบริหารราชการแผ่นดิน
เพราะฉะนั้นรสชาติก็ต่างกันอยู่ อาจไม่บู๊ล้างผลาญ แต่พอฟังจบแล้วเนี่ย พี่น้องประชาชนก็จะเห็นว่า เป็น 4 ปีที่เราเสียเวลาจริงๆ เป็นความผิดพลาด เสียเวลา เสียโอกาส เป็น 4 ปีที่น่าเสียดายมาก
แล้วเราก็จะได้รู้ว่า ที่มีการเสนอภาพตัวเองเป็นคนดี คนบริสุทธิ์ แท้ที่จริงมันไม่ใช่ สิ่งที่เป็นประโยชน์ก็คือ หลังจากอภิปรายฯ ประชาชนก็จะรู้ว่า ใครพูดแล้วไม่ทำ ใครโม้หาเสียง แต่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ จะไม่สามารถโกหกชาวบ้านได้อีก เพราะชาวบ้านจับได้ไล่ทันแล้ว
Nation Online : มีหวั่นๆ บ้างไหมครับว่า จะเกิดการยุบสภา เพื่อหนีการอภิปราย ?
สุทิน คลังแสง : มันก็เกิดขึ้นได้นะครับ แต่ว่าเท่าที่ฟังจาก กกต. เขาก็บอกว่า ถ้ายุบสภาเร็วๆ นี้ กกต. เตรียมตัวจัดการเลือกตั้งไม่ทัน คงยุ่ง ซึ่งถ้าเกิดไปชิงยุบ รัฐบาลก็จะรู้ว่า สถานการณ์น่าจะมีปัญหา เชื่อว่ารัฐบาลต้องฟังทาง กกต. คงไม่กล้ายุบสภาก่อนการอภิปราย
Nation Online : จากกระแสข่าวดีลลับระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ศึกซักฟอกครั้งนี้พรรคเพื่อไทยถูกจับจ้องว่า จะมีอภิปราย พล.อ.ประวิตร หรือไม่ ตรงนี้ทำให้รู้สึกกดดันบ้างไหมครับ ?
สุทิน คลังแสง : เรื่องดีลลับ มีพูดกันตั้งแต่วันแรกที่เราเข้ามาเป็น ส.ส. อภิปรายทุกครั้งก็พูดอย่างนี้แหละ แต่บังเอิญตอนนี้ “พล.อ.ประวิตร” ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดเลย เป็นรองนายกฯ ลอยๆ อยู่ ทำให้เห็นความผิดพลาดไม่เห็นชัดเจนเหมือนคนที่มีความรับผิดชอบโดยตรง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ มันจึงเห็นข้อบกพร่องไม่ค่อยชัดเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
2. พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในมุมมองของสุทิน
Nation Online : กรณีที่ “2 กุมาร” กลับ “พรรคพลังประชารัฐ” คุณสุทินมีความคิดเห็นอย่างไร ?
สุทิน คลังแสง : มันก็ไม่ค่อยแปลก ไม่ค่อยตื่นเต้นนะ เพราะว่าเขาเป็นคนเก่าของพรรคพลังประชารัฐ ไม่สบอารมณ์แล้วก็ออกไป พอทำพรรค (สร้างอนาคตไทย) ไปไม่รอด ก็กลับมา ก็แค่นี้ แล้วก็ไม่ได้ทำให้พรรคพลังประชารัฐเฟรช หรือสดขึ้นมา ก็ไม่น่าจะช่วยให้อะไรดีขึ้น
Nation Online : แล้วกับการถือกำเนิดเกิดขึ้นของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ล่ะครับ ?
สุทิน คลังแสง : ผมยังไม่ถือว่าเป็นพรรคการเมืองนะ เพราะว่าเพิ่งตั้งกัน พรรคการเมืองต้องมีกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองไปในทิศทางเดียวกัน ร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน แล้วประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย กำหนดโครงสร้างพรรค ทิศทางพรรค อย่างนั้นถึงเรียกว่าพรรคการเมือง
แต่ตรงนี้เป็นกลุ่มบุคคล เป็นการร่วมกลุ่มกันแบบสุกเอาเผากิน เป็นพรรคเฉพาะกิจ ผมคิดว่าน่าจะเตรียมตัวตั้งหลักไม่ค่อยทันในการเลือกตั้งครั้งนี้ ต่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ เพราะว่าบิ๊กตู่ยังตุปัดตุเป๋อยู่เลย นี่ไม่ใช่ดูถูกดูแคลนนะ ให้เราตั้งก็ทำได้ยากในเวลาแค่นี้ เพราะฉะนั้นไม่น่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชน
Nation Online : “พลังประชารัฐ” ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ทิ้งจุดขาย “แกนนำพรรคฝ่ายขวา” ในขณะที่ “รวมไทยสร้างชาติ” มีภาพลักษณ์ “ขวาจัด” อย่างชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ผู้ที่สนับสนุนแนวทางอนุรักษ์นิยม เทเสียงให้ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จนคะแนนอาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ครับ ?
สุทิน คลังแสง : คงไม่หรอก เพราะว่าพรรคฝ่ายขวาก็ยังมีอีกหลายพรรค ผมคิดว่าประชาชนเขาจะมองความเข้มแข็งของพรรคมากกว่า ดูแล้วพรรคยังเป็นวุ้นอยู่เลย ถ้าได้เป็นรัฐบาล ประยุทธ์ตายแน่ ในอดีตที่ผ่านมา ที่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสม เอาคนร้อยพ่อพันแม่มาอยู่ด้วยกัน มันก็ลดทอนความเข้มแข็งของผู้นำประเทศ เมื่อฐานการเมืองไม่เข้มแข็ง ก็ทำให้เป็นรัฐบาลที่อ่อนแอ ผมเชื่อว่าประชาชนเขาจะมองตรงนั้นมากกว่า
เพราะฉะนั้นถามว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จะโกยคะแนนฝ่ายขวา ผมคิดว่าประชาชนไม่ได้มองอย่างนั้นหรอก แต่มองว่าพรรคสุกเอาเผากิน มันจะเข้มแข็งทันไหมเนี่ย ถ้าไปเป็นรัฐบาลจะไม่วุ่นวายรายวันเหรอ คนไทยมีบทเรียนครับ ดังนั้นผมมองว่าเป็นจุดอ่อนมากกว่า แต่ถ้าเขาอยู่ที่เดิม พรรคเดิม ยังกอดคอกัน เนี่ยซิน่ากลัว
Nation Online : แม้ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย จะปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีดีลลับจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้าดูจากท่าทีของบิ๊กป้อม รวมถึงสโลแกนของพรรค (ก้าวข้ามความขัดแย้ง) เหมือนต้องการให้เข้าใจว่า ดีลลับฯ มีอยู่จริง
สุทิน คลังแสง : ก็เป็นเกมๆ หนึ่ง ที่พยายามสร้างข่าว พยายามจับเราไปเป็นคู่กับ “พลังประชารัฐ” โยงกันอยู่นั่นแหละ ก็ทำให้คนหวั่นไหว ถ้าคนไม่แยกแยะก็อาจจะเชื่อนะ แต่ผมอยากฝากไว้นะครับว่า มันมีความจำเป็นอะไรที่วันนี้เราต้องไปจับมือกันล่วงหน้า ถ้าเราได้ที่ 1 แบบที่เราคาดไว้ ใครก็ต้องวิ่งมาหาเรา ถ้าได้ตามเป้าหมายแลนด์สไลด์ เราเลือกได้เลยว่าจะเอาใครมาร่วมรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องไปเจรจากันล่วงหน้า
Nation Online หมายความว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ “พรรคพลังประชารัฐ” กับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” อย่างเด็ดขาด ?
สุทิน คลังแสง : “รวมไทยสร้างชาติ” คงไม่รวมด้วยเด็ดขาด เราตั้งใจรวมกับฝ่ายประชาธิปไตย เว้นเสียแต่ว่า สมาชิกพรรค เอฟซี มวลชนของเรา เรียกร้องหรือบอกให้เราทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนี้ เราก็ต้องมาพูดคุยกัน เช่น หากเจอข้อจำกัดว่า มันตั้ง (รัฐบาล) ไม่ได้ สมาชิกและมวลชนก็อาจจะบอกว่า ดีกว่าไม่ตั้งรัฐบาล พรรคเหล่านี้ลองเลือกดูซิ นักการเมืองก็ต้องฟังสมาชิก แต่ถ้าสมาชิกบอกว่า ตั้งไม่ได้ก็ไม่ต้องตั้ง อยู่กันอย่างนี้ดีกว่าไปรวมกับพรรคโน้น “พรรคเพื่อไทย” ควรเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องเอาอย่างนั้น
3. แผนสกัดแลนด์สไลด์
Nation Online : วันนี้ถ้าให้ประเมิน คุณสุทินคาดว่า “พรรคเพื่อไทย” จะได้ ส.ส. กี่คน ?
สุทิน คลังแสง : จริงๆ ก็ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะเข้าใจว่าอหังการ แต่เมื่อถามก็ต้องตอบ เราประเมินว่า จ่อๆ 300 เสียง ประมาณ 270 – 280 เสียง และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก
Nation Online : ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึง “แผนสกัดแลนด์สไลด์” คุณสุทินรู้สึกกังวลหรือไม่ ?
สุทิน คลังแสง : มีแน่ คงมาหลายขนาน หลายทิศทาง ก็อย่างที่เห็นกันน่ะแหละ แต่ว่าทั้งหลายทั้งปวงผมคิดว่า วันนี้ประชาชนมีเป้าหมายต้องการหลุดพ้นจากความยากจน จะต้องมีโอกาสใหม่ มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม เพราะฉะนั้นอะไรก็คงสกัดแนวคิดอย่างนี้ของประชาชนได้ยาก คำตอบน่าจะเป็นเรา ส่วนทำอะไรอย่างไรผมคิดว่า ประชาชนก็คงแยกแยะออก จะป้ายสีเราอย่างไร ก็เอาไว้ก่อน เราขอเป็นรัฐบาลก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน
Nation Online : อย่างกรณีของ “คุณจตุพร พรหมพันธุ์” ที่มาออกมาเคลื่อนไหวโจมตี “พรรคเพื่อไทย” อย่างรุนแรง คาดว่าหลังจากนี้ ดีกรีความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นไปอีกหรือไม่ ?
สุทิน คลังแสง : ความรุนแรงที่ส่งผลต่อจิตใจอาจจะมี แต่ว่าโดยสาระเนื้อหา คนก็พอจะรู้แหละว่า มันก็คือแผนสกัด เป็นความจงใจ แต่ก็อย่างที่ผมบอกว่า ประชาชนเขาแยกแยะออก ส่วนเราก็คงมุ่งสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์เป็นหลัก
4. ทักษิณกลับบ้าน
Nation Online : จากที่คุณทักษิณ ประกาศว่า จะกลับบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหว ตรงนี้ทำให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในเลือกตั้ง เป็นไปอย่างยากลำบากหรือไม่ ?
สุทิน คลังแสง : ถ้าทบทวนดูดีๆ ถ้าเข้าใจในความเป็นมนุษย์ ทุกคนก็อยากกลับบ้าน แล้วทุกคนก็แสวงหาลู่ทางกลับบ้าน แล้วผมก็เชื่อว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยก็อยากให้ท่านกลับบ้าน ไม่แปลกที่ท่านบอกจะกลับบ้าน แล้วก็พยายามดิ้นรนหาทางกลับ แต่ผมก็ยังเชื่อว่า ลู่ทางที่ท่านจะได้กลับ มันมีหลายลู่ทาง คงไม่จำเป็นต้องใช้ลู่ทางการเมือง
มันมีลู่ทางเยอะ การนิรโทษกรรม หรืออภัยโทษ บางครั้งมันไม่จำเป็นต้องมาจากรัฐบาลหรอก มีวาระมีโอกาส คนก็ได้รับการอภัยโทษ ได้รับนิรโทษกรรม แล้วคนก็พยายามโยงมาใส่พรรคการเมือง โยงว่า "พรรคเพื่อไทย" ต้องทำหน้าที่เอาท่านกลับบ้าน หรือท่านต้องอาศัย "พรรคเพื่อไทย" แต่ผมมองว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นช่องทางนี้
ส่วนกรณีลูกสาวท่านพูด “อยากให้พ่อกลับบ้าน” ตรงนั้นก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ลูกก็อยากจะอยู่กับพ่อแม่ คนไทยไม่น้อยอยากให้ท่านกลับ แล้วทำไมลูกจะไม่อยากให้ท่านกลับล่ะ ลูกเขาก็มีสิทธิพูด แต่ว่าลูกก็ไม่เคยพูดสักคำเลยว่า พอเป็นรัฐบาลแล้วจะต้องใช้อำนาจเอาพ่อกลับบ้าน
Nation Online : ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม (เหมาเข่ง) ปี 2557 ทุกวันนี้ยังหลอกหลอนพรรคเพื่อไทยอยู่หรือเปล่าครับ ?
สุทิน คลังแสง : มันก็เป็นบทเรียนของเรา ของสังคมไทย เพราะฉะนั้นเนี่ยประวัติศาสตร์ก็มีไว้เพื่อเรียนรู้ เรียนรู้เพื่อที่จะกำหนดหรือว่าแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ทำในสิ่งที่มันดี เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่ว่าหลอกหลอนหรอก แต่ถือว่าเป็นบทเรียน
Nation Online : จากบทเรียนครั้งนั้น ประวัติศาสตร์ก็จะไม่ซ้ำรอยอีก... ?
สุทิน คลังแสง : แน่นอน มนุษย์คงไม่ใครอยากกลับไปทำอะไรที่เราเจ็บปวด ที่เคยผิดหวัง ผมถึงบอกว่า มันมีหลายช่องทาง ช่องทางอื่นๆ ก็ยังมีที่ทำได้ ผมคิดอย่างนั้นครับ