ในขณะที่นักเตะและแฟนบอลลิเวอร์พูลต่างรอลุ้นด้วยใจจดจ่อ อาร์เซน่อลยังสามารถยื้อเวลาในการชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไปได้อีกเล็กน้อย หากพวกเขาเก็บชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซได้ในเกมลอนดอนดาร์บี้คืนวันพุธที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เวลา 02.00 น.
พลพรรค "ปืนใหญ่" เพิ่งโชว์ฟอร์มถล่มอิปสวิช ทาวน์ 4-0 ในช่วงวันหยุดอีสเตอร์ ขณะที่ฝั่ง พาเลซ กับบอร์นมัธจบเกมแบบไร้สกอร์และเต็มไปด้วยประเด็นการตัดสินที่น่ากังขาอีกครั้ง
"ปืนใหญ่" ไม่มีอาการล้าจากเกมยุโรปที่บุกชนะเรอัล มาดริด พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยฟอร์มอันร้อนแรง ถล่มอิปสวิช ทาวน์ ขาดลอย โดยได้ประตูจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ (2 ประตู), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (ประตูที่ 50 ของเขากับสโมสร) และลูกยิงแฉลบของ อีธาน วาเนรี่ ส่วนอิปสวิชต้องมาเหลือ 10 คนจากใบแดงของเลฟ เดวิสที่พุ่งเสียบใส่บูกาโย่ ซาก้า
แม้ซาก้าจะถูกโห่จากแฟนบอลเจ้าถิ่นแบบน่าแปลกใจ และต้องออกจากสนามก่อนครบชั่วโมง แต่โดยรวมถือเป็นชัยชนะที่ไร้ที่ติสำหรับทีมของมิเกล อาร์เตต้า แม้พวกเขาจะรู้ดีว่าการลุ้นแชมป์ปีนี้แทบเป็นไปไม่ได้แล้วก็ตาม
อาร์เซน่อลยังตามหลังลิเวอร์พูลถึง 13 แต้มในตารางพรีเมียร์ลีก และหากแพ้ในเกมนี้ พวกเขาจะเป็นฝ่ายมอบแชมป์อย่างเป็นทางการให้กับลิเวอร์พูลของอาร์เน่อ ชล็อต อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของพวกเขาคือการคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีก และเตรียมความพร้อมก่อนเจอเปแอสเชในรอบรองฯ สัปดาห์หน้า
ฝั่ง พาเลซ หลังจากบุกแพ้ยับให้แมนฯ ซิตี้และนิวคาสเซิล พวกเขาเริ่มตั้งหลักได้บ้างในเกมเสมอบอร์นมัธ 0-0 แม้จะต้องเล่น 10 คนหลังคริส ริชาร์ดส์โดนไล่ออกจากการโดนใบเหลืองสองใบติดต่อกัน ส่วนบอร์นมัธรอดจากการโดนใบแดงไปได้อย่างหวุดหวิดถึงสองคน
แม้โค้ช โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ จะไม่พอใจกับการตัดสินของกรรมการนัก แต่ก็ต้องชมทีมของเขาที่สู้จนได้แต้ม และพาเลซเองยังมีลุ้นสร้างสถิติใหม่หากสามารถเอาชนะในเกมดาร์บี้ลอนดอนเพิ่มอีกนัด หลังจากที่ชนะไปแล้ว 3 เกมในฤดูกาลนี้ แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะพวกเขาแพ้อาร์เซน่อลมาแล้วถึงสองครั้งในฤดูกาลนี้ ทั้งในพรีเมียร์ลีกและคาราบาว คัพ