ค่ำคืนแห่งการฉลองแชมป์ของลิเวอร์พูลอาจมาถึง ขณะที่ฝันร้ายของเลสเตอร์ในรูปแบบการตกชั้นอาจเกิดขึ้นจริง ณ สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ในศึกพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้
โดยหากอิปสวิช ทาวน์ สามารถหยิบแต้มจากอาร์เซน่อลได้ ลิเวอร์พูลก็มีโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที ส่วนเลสเตอร์ ถ้าไม่สามารถคว้าชัยได้ในเกมนี้ โอกาสร่วงหล่นสู่แชมเปี้ยนชิพก็จะเป็นความจริงทันทีเช่นกัน
การจัดทัพของ มิเกล อาร์เตต้า ในนัดเจอกับเบรนท์ฟอร์ด แสดงให้เห็นว่าอาร์เซน่อลอาจหันไปเน้นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่าการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งกลายเป็นโอกาสทองของลิเวอร์พูลทันที โดยพวกเขาไม่พลาดเก็บสามแต้มจากเวสต์แฮมในบ้าน แม้จะต้องออกแรงไม่น้อย ก่อนจะได้ประตูจาก หลุยส์ ดิอาซ และลูกโหม่งจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
เดือนเมษายน 2025 อาจกลายเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูลอีกครั้ง หลังจากฟาน ไดจ์คเพิ่งต่อสัญญาตาม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และตอนนี้พวกเขาต้องการเพียงอีก 2 ชัยชนะจาก 6 นัดสุดท้าย เพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สอง
แม้เกมเยือนล่าสุดพวกเขาจะสะดุดแพ้ฟูแล่ม 2-3 แต่ก็ไม่แพ้เกมเยือนติดต่อกันในลีกมาตั้งแต่เมษายน 2023
ยิ่งไปกว่านั้น ลิเวอร์พูลยิงได้อย่างน้อยสองประตูในเกมเยือนพรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุด และ 11 จาก 12 เกมหลัง ดังนั้นแฟนเลสเตอร์คงเริ่มทำใจกับสถานการณ์ของทีมได้บ้างแล้ว
ในขณะที่ลิเวอร์พูลกำลังใกล้แชมป์เข้าไปทุกที เลสเตอร์กลับกำลังถอยหลังสู่แชมเปี้ยนชิพแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้จะทำได้ดีในนัดล่าสุดด้วยการเสมอกับไบรท์ตัน 2-2 และยุติสถิติยิงประตูไม่ได้ 8 นัดติดต่อกัน
แต่ความจริงก็คือ พวกเขาตามหลังโซนปลอดภัยถึง 17 แต้ม ขณะที่เหลืออีกแค่ 18 แต้มให้เก็บ หากไม่ชนะในเกมนี้ พวกเขาจะตกชั้นทันที และถึงจะชนะ แต่ถ้าวูล์ฟส์กับเวสต์แฮมชนะเช่นกัน เลสเตอร์ก็ยังไม่รอดอยู่ดี
นั่นทำให้เลสเตอร์ต้องทุ่มสุดกำลังในเกมนี้ โดยเฉพาะการเล่นในบ้านที่แฟนบอลอยากเห็นทีมยิงประตูให้ได้อีกครั้ง หลังจากพวกเขายิงในบ้านไม่ได้มา 8 นัดติดต่อกัน ซึ่งหากเป็น 9 นัด จะกลายเป็นสถิติเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดอังกฤษทันที
มีข่าวดีเมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง หลังเจ็บข้อเท้ามานานหนึ่งเดือน ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ก็ใกล้ฟิตเต็มร้อยหลังป่วยจนพลาดเกมชนะเวสต์แฮม
ตอนนี้ ลิเวอร์พูลเหลือนักเตะบาดเจ็บเพียงสองรายคือ โจ โกเมซ (แฮมสตริง) และ ไทเลอร์ มอร์ตัน (หัวไหล่)
ด้าน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กำลังไล่ล่าสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีก โดยเขาขาดอีกแค่ 3 ประตูหรือแอสซิสต์ เพื่อทำลายสถิติส่วนตัวในฤดูกาล 38 นัด และอาจกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ใน 6 เกมติดกับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา
รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้รับข่าวดีเช่นกันเมื่อ เวาต์ ฟาส และ เจเรมี มองก้า (นักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก) กลับมาพร้อมลงสนาม
วิกเตอร์ คริสเตียนเซ่น (เหตุผลส่วนตัว) และ ฟากุนโด บัวนาน็อตเต้ (หมดสิทธิ์เจอต้นสังกัดเดิมในนัดก่อน) ก็พร้อมเช่นกัน ขณะที่ แฮร์รี วิงค์ส (แบน) และ อับดุล ฟาตาวู (เจ็บเข่า) ยังไม่พร้อม