"แมนยู" พลิกนรกสุดดราม่า เฉือนลียงลิ่วตัดเชือกยูโรปาลีก

ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดราม่าที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังประสบปัญหาในพรีเมียร์ลีก กลับลุกขึ้นมาโชว์ฟอร์มสุดระห่ำ พลิกสถานการณ์เฉือนชนะ โอลิมปิก ลียง ไปแบบสุดมัน 5-4 ทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของยูโรป้าลีก

ยูไนเต็ดขึ้นนำก่อน 2-0 แต่กลับปล่อยให้ลียงตีเสมอ และกลายเป็นฝ่ายตามหลัง 4-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งที่คู่แข่งเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ก่อนจะรวมพลังฮึดสู้ ยิงคืนสามประตูในช่วงท้ายเกม สร้างหนึ่งในค่ำคืนแห่งความทรงจำที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตูชัยของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในช่วงทดเจ็บของการต่อเวลา จุดประกายความหวังว่า ยูไนเต็ดอาจกอบกู้ฤดูกาลที่น่าผิดหวังนี้ได้สำเร็จ แม้ตอนนี้จะยังรั้งอยู่ในครึ่งล่างของตารางพรีเมียร์ลีกก็ตาม

"เรายังมีเวลาเพื่อสร้างสิ่งพิเศษให้กับฤดูกาลนี้ เราต้องคิดแบบนั้น และคิดในแง่บวกเสมอ" รูเบน อโมริม เฮดโค้ชยูไนเต็ดกล่าวหลังเกม

รอบรองชนะเลิศ แมนฯ ยูไนเต็ด จะพบกับแอธเลติก บิลเบา ซึ่งเพิ่งเอาชนะเรนเจอร์ส 2-0

สเปอร์สก็มา

อีกทีมจากอังกฤษอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก็ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเช่นกัน หลังเอาชนะไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 1-0 รวมผลสองนัดชนะ 2-1 จากประตูชัยของ โดมินิค โซลันกี้ จากจุดโทษในครึ่งแรก

แม้ฤดูกาลนี้จะลุ่ม ๆ ดอน ๆ เช่นเดียวกับยูไนเต็ด แต่ "ไก่เดือยทอง" ก็ยังมีลุ้นคว้าแชมป์แรกในรอบกว่าสิบปี

"นักเตะทุกคนเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ และผมภูมิใจในตัวพวกเขามาก มันคือเกมใหญ่สำหรับเรา ทั้งในแง่ของฤดูกาลนี้ และเป้าหมายที่เราตั้งไว้" อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือสเปอร์ส เผย  

ประวัติศาสตร์ใหม่ของนอร์เวย์

โบโด/กลิมท์ กลายเป็นทีมจากนอร์เวย์ทีมแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลยุโรปรายการใหญ่ หลังดวลจุดโทษเอาชนะลาซิโอ 3-2

แม้ลาซิโอจะพลิกชนะในช่วงต่อเวลา 3-1 ทำให้สกอร์รวมกลับมาเสมอ 3-3 แต่ นิกิต้า ไฮคิน นายทวารของ โบโด/กลิมท์ ก็เซฟลูกโทษสำคัญ พาทีมสร้างประวัติศาสตร์สำเร็จ

"นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะของ โบโด/กลิมท์ แต่มันคือชัยชนะของฟุตบอลนอร์เวย์ทั้งประเทศ" ไฮคิน กล่าว

ในรอบตัดเชือก โบโด/กลิมท์ จะเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

คอนเฟอเรนซ์ลีกยังเดือด

สามทีมใหญ่อย่าง เชลซี, ฟิออเรนติน่า และ เรอัล เบติส ต่างตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศของยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก

เชลซี แม้แพ้เลกสอง 1-2 แต่ผลรวมยังชนะ ลีเกีย วอร์ซอว์ 4-2 ส่วน ฟิออเรนติน่า เสมอ เซลเย่ 2-2 แต่รวมผลเฉือนชนะ 4-3 และ เรอัล เบติส เสมอ ยาเกียลโลเนีย 1-1 เข้ารอบด้วยผลรวม 3-1

อีกคู่ที่พลิกล็อกเล็กน้อยคือ เยอร์การ์เด้น จากสวีเดน ถล่ม ราปิด เวียนนา 4-1 รวมผล 4-2 เข้ารอบไปพบเชลซี ส่วนฟิออเรนติน่าจะดวลกับเบติส