เก็บตก UCL "แอสตัน วิลล่า-ดอร์ทมุนด์" คว้าชัยแต่ร่วง 8 ทีม
เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจจากศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีม โดย แอสตัน วิลล่า และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แม้จะเก็บชัยชนะแต่ไม่เพียงพอที่จะผ่านเข้ารอบได้
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เอาตัวรอดจากการคัมแบ็กอันกล้าหาญของแอสตัน วิลล่า แม้จะบุกไปแพ้ 3-2 แต่รวมผลสองนัดเฉือนผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยสกอร์รวม 5-4
หลังจากชนะในนัดแรกที่ปารีส 3-1 เปแอสเชมาเยือนวิลล่า พาร์ค และขึ้นนำรวมถึง 4 ประตู เมื่ออัชราฟ ฮาคิมี่ และ นูโน่ เมนเดส ยิงคนละลูกภายใน 27 นาทีแรก
อย่างไรก็ตาม วิลล่า ที่ได้เจ้าชายวิลเลียมมาเชียร์ถึงขอบสนาม จุดกระแสความหวังจากประตูตีไข่แตกของยูริ ตีเลอมองส์ ก่อนจอห์น แม็คกินน์ และเอซรี่ คอนซ่า จะยิงเพิ่มอีก 2 ลูกในช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้สกอร์ขยับมาเป็น 3-2 ในนัดนี้ และตามหลังรวมแค่ลูกเดียว
แต่ความหวังของทีมจากพรีเมียร์ลีกต้องดับลง เพราะจานลุยจิ ดอนนารุมมา นายทวารเปแอสเช โชว์ฟอร์มเซฟสุดเหนียว โดยเฉพาะการป้องกันลูกยิงของมาร์คัส แรชฟอร์ด, ยูริ ตีเลอมองส์ และมาร์โก อเซนซิโอ ที่เกือบพาทีมเจ้าบ้านตีเสมอผลรวม
จังหวะสุดท้ายของเกมเกือบเป็นดราม่า เมื่อเอียน แมตเซ่น ตัวสำรองของวิลล่า วอลเลย์เต็มข้อ แต่ลูกไปติดวิลเลียน ปาโช่ ที่บล็อกไว้หน้าปากประตูพอดี
แม้จะแพ้ในเกมนี้ แต่เปแอสเชก็ผ่านเข้ารอบรองฯ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ฤดูกาล โดยครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้ยุคใหม่ที่ไม่มี "ซูเปอร์สตาร์" อย่างเนย์มาร์, เมสซี่ หรือเอ็มบัปเป้ อยู่ในทีมอีกต่อไป
หลังเขี่ยลิเวอร์พูลตกรอบ 16 ทีม เปแอสเชกลายเป็นผู้พิชิตทีมพรีเมียร์ลีกถึงสองทีม และอาจต้องเจอกับอาร์เซน่อล ทีมที่กำลังนำเรอัล มาดริด 3-0 จากเลกแรก
ดอร์ทมุนด์ถล่มบาร์ซ่า 3-1 แต่ไม่พอ
อีกเกมที่ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค แซร์อู กีราสซี่ ยิงแฮตทริกพาดอร์ทมุนด์เปิดบ้านอัดบาร์เซโลน่า 3-1 เป็นทีมแรกที่ชนะบาร์ซ่าได้ในปี 2025 แต่รวมผลสองนัดยังเป็นทีมจากสเปนที่เข้ารอบ ด้วยสกอร์รวม 5-3
หลังแพ้เละ 0-4 ในเลกแรก ดอร์ทมุนด์ไม่มีอะไรจะเสีย เดินหน้าเปิดเกมรุกใส่ตั้งแต่เริ่ม และสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับบาร์ซ่าได้ดี
“ผมมีลางอยู่แล้วว่าอาจเจองานหนัก และต้องขอแสดงความยินดีกับดอร์ทมุนด์ พวกเขาเล่นได้ยอดเยี่ยม ส่วนลูกทีมผมก็สมควรได้รับคำชมเช่นกัน ที่สามารถผ่านเข้ารอบได้” ฮันซี่ ฟลิค เฮดโค้ชบาร์ซ่า กล่าว
กีราสซี่ ยิงจุดโทษให้ดอร์ทมุนด์นำ 1-0 ตั้งแต่นาที 11 ก่อนจะโขกอีกลูกในครึ่งหลังเป็น 2-0
แม้ดอร์ทมุนด์จะเสียประตูตีไข่แตกจากการทำเข้าประตูตัวเองของรามี่ เบนเซไบนี่ แต่เขาก็ยังมีส่วนกับประตูที่ 3 ของทีม เมื่อเปิดให้กีราสซี่ซัดจ่อ ๆ กลายเป็นแฮตทริกและขึ้นนำดาวซัลโว UCL ซีซั่นนี้ที่ 13 ประตู
ช่วงท้ายเกม บาร์ซ่าต้านทานไว้ได้ และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ UCL ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018-19 โดยจะพบผู้ชนะระหว่างอินเตอร์ มิลาน กับบาเยิร์น มิวนิก
การแพ้ในเกมนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของบาร์เซโลน่าทุกรายการตั้งแต่เดือนธันวาคม และเป็นเกมแรกในแชมเปียนส์ ลีกที่พวกเขาแพ้ในซีซั่นนี้
