เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 2-0 โดยสองประตูจากเกมนี้ทำให้พวกเขายิงได้ถึง 15 ประตูจาก 4 นัดหลังสุด พร้อมกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดอีกครั้ง ด้วยการเล่นที่เฉียบคมของกัปตันทีมผู้สร้างสรรค์เกมอย่างมาร์ติน โอเดการ์ด และปีกตัวเก่งอย่าง บูคาโย่ ซาก้า
แม้อาร์เซน่อลจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำประตูได้หลากหลายวิธี แต่ 2 ประตูจากเกมพบ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดจากวิธีที่คุ้นเคย นั่นคือ “ลูกตั้งเตะ” โดยนาทีที่ 54 เดแคลน ไรซ์ เปิดลูกเตะมุมให้ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ โหม่งเช็ดเข้าไป ก่อนที่นาทีที่ 73 บูคาโย่ ซาก้า จะเปิดคอร์เนอร์ไปที่เสาสองให้ โธมัส ปาร์เตย์ โหม่งไปชนตัว วิลเลี่ยม ซาลีบา เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย
นอกจากนั้นในเกมก่อนหน้านี้ ที่เอาชนะ เวสต์แฮม 5-2 ประตูแรกในนาทีที่ 10 ก็มาจากลูกตั้งเตะเช่นกัน โดย บูคาโย่ ซาก้า เปิดลูกเตะมุมเข้าไปให้ กาเบรียล มากัลเญส สลัดหนีตัวประกบก่อนโดดขึ้นโหม่งตุงตาข่าย
จนถึงตอนนี้ กาเบรียล ทำไปแล้ว 4 ประตูในทุกรายการ และทุกคนก็ได้รู้ซึ้งว่าเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแผนการเล่นลูกตั้งเตะของอาร์เซน่อล ซึ่งถือว่าดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ตามข้อมูลจาก Whoscored อาร์เซน่อลอยู่ในอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีก เมื่อพิจารณาจากจำนวนประตูที่เกิดจากลูกตั้งเตะนับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่แล้ว โดยพวกเขาทำประตูจากลูกตั้งเตะไปถึง 27 ประตู ขณะที่ทีมลุ้นแชมป์ร่วมอย่างลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้เพียง 17 และ 20 ประตูตามลำดับ
ตอนนี้จึงกลายเป็นว่า ทันทีที่อาร์เซน่อลได้ลูกเตะมุม แฟนบอลจะลุกขึ้นเหมือนทีมได้จุดโทษ และแนวรับของพวกเขาเดินขึ้นมาในกรอบเขตโทษพร้อมความมั่นใจ ทำให้คู่แข่งต้องรู้สึกกดดันทุกครั้ง
แล้วอะไรทำให้อาร์เซน่อลเก่งเรื่องการทำประตูจากลูกตั้งเตะ?
ในอดีต “ปืนใหญ่” เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่มีความแข็งแกร่งในจังหวะเซตพีซ แต่ปัจจุบันพวกเขากลายเป็นทีมที่สามารถเปลี่ยนลูกตั้งเตะเป็นประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มิเกล อาร์เตต้า ไปดึงตัว นิโคลัส โยเวอร์ โค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านลูกตั้งเตะมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2021 ซึ่ง โยเวอร์ ได้นำมิติใหม่มาสู่เกมของอาร์เซน่อล ด้วยความจริงที่ว่าในแต่ละเกมจะมีลูกเตะมุมเฉลี่ย 10-11 ครั้ง และถ้าทีมสามารถเปลี่ยนลูกเหล่านี้ให้เป็นโอกาสทำประตูได้มากขึ้น โอกาสในการชนะก็ยิ่งสูง
โยเวอร์ทำงานเบื้องหลังอย่างหนัก และผลงานของเขาก็เริ่มปรากฏชัด เช่นเดียวกับที่ บูคาโย่ ซาก้า กล่าวไว้หลังเกมชนะคริสตัล พาเลซ 5-0 ว่า "เราให้ความสำคัญกับลูกตั้งเตะมาก นิโคทำงานได้ดีมาก เขาทำให้มันสนุกและเราก็สนุกไปกับมัน สิ่งที่เขาทำมันได้ผลชัดเจน ดังนั้นเราต้องทำต่อไป"
นอกจากการได้โค้ชที่หันมาเน้นลูกเซตพีซอย่างเต็มที่แล้ว “กาเบรียล มากัลเญส” ก็คืออีกหนึ่งกุญแจสำคัญ โดยเขาถูกดึงตัวมาจากลีลล์ในปี 2020 ด้วยค่าตัว 26 ล้านยูโร ซึ่งนับเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าอย่างมากในพรีเมียร์ลีก ทั้งเขาและ วิลเลี่ยม ซาลิบา กลายเป็นคู่กองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดคู่หนึ่งในโลกฟุตบอลเวลานี้
นอกจากการป้องกันที่ยอดเยี่ยมแล้ว กาเบรียลยังเป็นฝันร้ายสำหรับกองหลังคู่แข่งในกรอบเขตโทษ ด้วยการกระโดดและจังหวะโหม่งที่แม่นยำ
ใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา กาเบรียลทำประตูในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 15 ลูก ซึ่งไม่มีเซ็นเตอร์แบ็กคนไหนทำได้ใกล้เคียงเท่าเขา โดย เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ตามมาเป็นอันดับสองแบบห่างๆด้วยจำนวน 9 ประตูเท่านั้น
ด้วยสถิติการทำประตูของเขาที่ 0.12 ลูกต่อเกม "กาเบรียล" จึงถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่ทำประตูได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก และในฤดูกาลนี้เขาจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้อาร์เซน่อลลุ้นแชมป์ลีกได้แบบยาวๆแน่นอน