ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดสนาม พาร์ค เดส์ แพร็งซ์ พบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยผลนัดแรก "เสือเหลือง" ชนะมา 1-0
เกมนี้มีแค่ประตูเดียวเกิดขึ้น โดยเป็นทางฝั่ง ดอร์ทมุนด์ ที่มาได้ประตูชัยในนาทีที่ 50 จากลูกเตะมุมที่ ยูเลี่ยน บรันด์ท เปิดมาให้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ โขกตุงตาข่าย จบเกม ดอร์ทมุนด์ ชนะไป 1-0 รวมผลสองนัด "เสือเหลือง ชนะ 2-0 ผ่านเข้าชิงได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี รอพบผู้ชนะระหว่าง เรอัล มาดริด หรือ บาเยิร์น มิวนิค ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
และจากผลเกมนี้ ทำให้ เปแอสเช ยังต้องไล่ล่าแชมป์ยูซีแอลที่ยังไม่เคยสัมผัส และเป็นเป้าหมายสูงสุดของกลุ่มทุนกาตาร์ที่เป็นเจ้าของทีมต่อไป แม้จะทุ่มงบประมาณแบบไม่อั้นมาตลอดก็ตาม โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการได้รองแชมป์เมื่อฤดูกาล 2019-20 ที่ไปพ่าย บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในนัดชิงชนะเลิศ เท่านั้น
โดยเกมนี้พวกเขาโชคร้ายที่ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวทั้งที่บุกหนัก ไม่ว่าจะเป็น นาที 47 ที่ วาร์เรน ซาอีร์-เอเมรี่ ยิงไปชนเสา, นาที 60 นูโน่ เมนเดส ยิงไปชนเสาอีกครั้ง และ นาที 88 วิตินญ่า ยิงไกลไปชนคาน เป็นต้น เรียกว่าโชคไม่เข้าข้างอย่างแท้จริง
"บอกตามตรงผมคิดว่าเราสมควรชนะ เราสร้างโอกาสยิงประตูได้ 31 ครั้ง ยิงชนเสาชนคานไป 4 หน บางครั้งฟุตบอลก็ไม่ยุติธรรม" หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือ เปแอสเช กล่าวหลังเกม