เก็บตกพรีเมียร์ลีก 14 เม.ย. "ลิเวอร์พูล-อาร์เซน่อล" พ่ายคาบ้าน หรือแชมป์จะยังไม่เปลี่ยนมือ?

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความน่าสนใจตั้งแต่เกมวันเสาร์ หลังแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้า 3 แต้มพร้อมขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงของตารางได้สำเร็จ โยนความกดดันให้คู่แข่งที่กำลังแย่งแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ไปในทันที

เข้าสู่เกมวันอาทิตย์ (14 เม.ย.) ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ พบ คริสตัล พาเลซ โดย "หงส์แดง" หวังจะล้างอายให้ได้หลังพ่าย อตาลันต้า แบบหมดสภาพ 0-3 ในศึกยูโรป้าลีก 

แต่เกมนี้กลายเป็นงานยาก เพราะ คริสตัล พาเลซ ก็กำลังต้องการทุกคะแนนเพื่อหนีตกชั้นอยู่เช่นกัน แถมผลงานจากเกมที่ ลิเวอร์พูล แพ้ อตาลันต้า ก็ได้ทำให้ทุกๆทีมเห็นแล้วว่าจะจัดการกับพวกเขาอย่างไร 

โดยเกมนี้ พาเลซ ถอดแท็กติกการเล่นเหมือน อตาลันต้า แทบจะไม่ผิดเพี้ยน อาศัยจังหวะที่เจ้าถิ่นยังรวบรวมสมาธิไม่ได้ บุกเข้าไปยิงขึ้นนำก่อน จาก เอเบริชี่ เอเซ่ ในนาทีที่ 14 จากนั้นก็หันมาตั้งรับอย่างอดทนพร้อมหาโอกาสสวนกลับเป็นระยะอย่างได้ผล ตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล ที่นัดกันฟอร์มหลุดทั้งทีม จ่ายบอลขาดๆเกินๆ ตลอดทั้งเกม โดยมีการบันทึกสถิติว่าครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จ่ายบอลพลาดถึง 60 ครั้งทีเดียว

ส่วนครึ่งหลัง แม้เจ้าถิ่นจะหาโอกาสบุกเข้าไปจบสกอร์ได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับของ พาเลซ จบเกม ลิเวอร์พูล จึงพ่ายไป 0-1 นับเป็นความพ่ายแพ้คาบ้าน 2 นัดติดต่อกัน และเป็นการแพ้เกมลีกในบ้านเป็นนัดแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2022 ซึ่งกินเวลานาน 28 นัด (ชนะ 22 เสมอ 6)

ซึ่งจากผลงานที่ค่อยๆแผ่วลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง ทำให้หลายคนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ ลิเวอร์พูล จะได้เพียง 1 แชมป์ในฤดูกาลนี้ 

ขณะที่ ลิเวอร์พูล พ่าย กลายเป็นเป็นโอกาสของ อาร์เซน่อล ที่จะทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืน โดยพวกเขาเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า ที่กำลังฟอร์มแรงเช่นกัน

โดยซีซั่นก่อน อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงอยู่นาน ก่อนจะมาแผ่วปลายจนถูก แมนฯซิตี้ แซงคว้าแชมป์ไปได้ แต่มาในซีซั่นนี้ พวกเขาโชว์ฟอร์มได้ดีกว่าเดิมจนหลายคนเชื่อว่า "เดอะ กันเนอร์ส" จะลบความผิดหวังจากซีซั่นที่แล้วได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาจะแพ้ความกดดันอีกครั้ง โดยครึ่งแรก อาร์เซน่อล เปิดฉากบุกเข้าใส่และมีโอกาสยิงหลายต่อหลายครั้งแต่ขึ้นนำไม่ได้ พอเข้าสู่ครึ่งหลัง อูไน เอเมรี่ แก้เกมให้ วิลล่า ได้ดีกว่า กระทั่งท้ายเกมทีมเยือนมาได้สองประตูรวดจาก ลีออน เบลีย์ นาทีที่ 84 และ โอลลี่ วัตกิ้นส์ นาทีที่ 87 ทำให้ "สิงห์ผงาดด" สร้างเซอร์ไพรส์บุกเชือด อาร์เซนอล ถึงถิ่นไปด้วยสกอร์ 0-2

หลังจบเกม มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล บอกว่า "เรามีฟอร์มที่แตกต่าง ครึ่งแรกเราเล่นได้อย่างสุดยอด มันเป็นครึ่งแรกที่ดีที่สุดนัดหนึ่ง และเราน่าจะได้สามหรือสี่ประตูหรือมากกว่านั้นแต่ทำไม่ได้ ส่วนครึ่งหลังเราขาดความต่อเนื่อง ไม่มีความไหลลื่นเหมือนครึ่งแรก จากนั้นเราก็เสียสองประตูอย่างเลวร้าย"

"ตอนที่เรายังเสมอกัน คุณต้องลงโทษพวกเขาให้ได้ หากคุณทำไม่ได้ อย่างน้อยคุณก็ไม่ควรเสียประตู แต่เราทำไม่ได้"

"เราไม่อาจคอนโทรล แมนฯ ซิตี้ ได้  สิ่งที่เราคอนโทรลได้หลังจากนี้คือเราต้องชนะ ชนะ และชนะ"

ส่วนผลอีกคู่ เวสต์แฮม แพ้ ฟูแล่ม 0-2 โดยทีมเยือนได้ 2 ประตูจาก อันเดรส เปเรยร่า ในนาทีที่ 9 และ 72

สรุปตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (14 เม.ย.)

โปรแกรมนัดที่เหลือของ 3 ทีมลุ้นแชมป์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

• 26 เม.ย. : ไบรท์ตัน (เยือน)
• 28 เม.ย.  ฟอเรสต์ (เยือน)
• 4 พ.ค. : วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า) 
• 11 พ.ค. : ฟูแล่ม (เยือน)
• 15 พ.ค. : สเปอร์ส (เยือน)
• 19 พ.ค. : เวสต์แฮม (เหย้า)

อาร์เซน่อล

• 21 เม.ย. : วูล์ฟแฮมป์ตัน (เยือน) 
• 24 เม.ย. : เชลซี (เหย้า) 
• 28 เม.ย. : สเปอร์ส (เยือน)
• 4 พ.ค. : บอร์นมัธ (เหย้า)
• 12 พ.ค. : แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)
• 19 พ.ค. :เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

ลิเวอร์พูล

• 21 เม.ย. : ฟูแล่ม (เยือน)
• 25 เม.ย. : เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
• 27 เม.ย. : เวสต์แฮม (เยือน)
• 5 พ.ค. : สเปอร์ส (เหย้า)
• 14 พ.ค. : แอสตัน วิลล่า (เยือน)
• 19 พ.ค. : วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)