ควันหลงจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมที่ เชลซี เปิดบ้านเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-3 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา ซึ่ง "ปีศาจแดง" มีโอกาสคว้าชัยชนะหลังขึ้นนำ 3-2 แต่มาโดนเจ้าถิ่นยิง 2 ประตูรวดในช่วงทดเจ็บ พ่ายไปแบบช็อกแฟนบอลทั่วโลก
หลังจบเกมมีการเปิดเผยสถิติที่พลพรรค เร้ด เดวิลส์ คงไม่อยากจดจำ เริ่มจากการที่พวกเขาแพ้ไปแล้วถึง 17 เกมรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ นับเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของทีมในรอบ 24 ปี โดยหนสุดท้ายที่แพ้มากขนาดนี้ต้องย้อนกลับไปถึงฤดกาล 1989/90 ซึ่งปีนั้นจบอันดับ 13 ของตาราง
นอกจากนี้ เว็บไซต์บันทึกสถิติชื่อดังอย่าง "อ็อปต้า" ยังเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่ปล่อยให้คู่แข่งสร้างโอกาสทำประตูใส่มากที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ตั้งแต่เข้าสู่ปีปฏิทิน 2024 เป็นต้นมา (นับเฉพาะเกมลีก) โดยปล่อยให้คู่แข่งยิงใส่ถึง 225 ครั้ง เสียไป 17 ประตู ซึ่งจากสถิติดังกล่าวสะท้อนถึงปัญหาในแนวรับของ แมนฯยูไนเต็ด เป็นอย่างดี
เท่านั้นยังไม่พอ เอริค เทน ฮาก กุนซือ "ปีศาจแดง" ที่ล่าสุดขึ้นเป็นเต็ง 1 ของกุนซือที่จะถูกปลดเป็นรายต่อไป ยังเปิดเผยกับ MUTV อีกว่า เกมดังกล่าวทีมยังต้องสังเวยคู่ปราการหลังอย่าง ราฟาแอล วาราน และ จอนนี่ อีแวนส์ รวมถึงกองกลางอย่าง กาเซมีโร่ ไปด้วยเนื่องจากบาดเจ็บ และยังต้องลุ้นหนักว่าจะฟิตทันช่วยทีมในศึกแดงเดือด ที่จะพบกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 7 เม.ย. นี้ได้หรือไม่
โดยเฉพาะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กที่วิกฤตอย่างหนัก เนื่องจาก ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เจ็บไปก่อนหน้านี้แล้ว นั่นหมายความว่าหาก วาราน และ อีแวนส์ หายไม่ทัน ก็จะเหลือแค่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่เป็นเซ็นเตอร์อาชีพในทีมชุดใหญ่แค่คนเดียว ส่งผลให้อาจจะต้องหันไปใช้งานดาวรุ่งอย่าง วิลลี่ คัมบ์วาล่า ลงเล่นแทน