รู้จักกับ "โคล พาลเมอร์" จากเด็กปั้นแห่ง "แมนซิตี้" สู่สตาร์แห่ง "เชลซี"

หลังจากศึกพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ "เชลซี" เปิดบ้านเสมอกับ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ไปอย่างสุดมันส์ 4-4 โดยเจ้าถิ่นมาได้ประตูตีเสมอจากจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ด้วยผลงานของ "โคล พาลเมอร์" ดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 21 ปี ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ได้ด้วย

จากผลงานดังกล่าวทำให้บรรดาแฟนบอลทั่วโลกต่างก็พูดถึงเป็นอย่างมากกับฟอร์มการเล่นของดาวรุ่งผู้นี้ ทำให้วันนี้ "เนชั่นออนไลน์" จึงขอแนะนำทำความรู้จักกับประวัติของเขากัน

ชีวิตวัยเด็ก
โคล เจอร์เมน พาลเมอร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 ในเมือง ไวเทนชอว์ เขตเกรทเทอร์ แมนเชสเตอร์ เริ่มหัดเล่นฟุตบอลโดยการสนับสนุนจากพ่อของเขาที่เคยเป็นนักฟุตบอลในลีกท้องถิ่นมาก่อน และเป็นพ่อของเขานี่เองที่พาลูกชายตระเวนไปทดสอบฝีเท้ายังทีมต่างๆอยู่เสมอ ก่อนจะได้เข้าร่วมกับทีมอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในชุดอายุต่ำกว่า 8 ปี

โคล พาลเมอร์ พัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ จนก้าวสู่การได้เป็นกัปตันทีม แมนฯซิตี้ ชุด U18 ในฤดูกาล 2019–20 ซึ่งในฤดูกาลนั้นเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยในศึกพรีเมียร์ลีก U18 ลงสนามไป 14 นัด ยิงประตูไป 15 ประตู 5 แอสซิสต์ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์ลีกของรุ่น U18 ได้สำเร็จ

ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่
ด้วยทักษะที่หลากหลายของเขาที่สามารถเล่นได้แทบทุกตำแหน่งในแนวรุก ทำให้ถูกเรียกตัวไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และในวันที่ 30 ก.ย. 2020 โคล พาลเมอร์ ก็ได้รับโอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้ลงประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมลีก คัพ รอบ 4 ที่ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-0

การเติบโตจากนักเตะในอะคาเดมี่ไปสู่ทีมชุดใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งกับทีมที่มีซูเปอร์สตาร์ล้นทีมอย่าง แมนฯซิตี้ ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ โคล พาลเมอร์ ก็ค่อยๆสอดแทรกเข้าสู่ทีม และได้ลงสนามบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสั่งสมประสบการณ์ โดยตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุด เจ้าตัวลงเล่นให้ "เรือใบสีฟ้า" ไป 28 เกม ยิงไป 4 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์

สู่สมาชิกใหม่ของ เชลซี
อย่างไรก็ตามในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โคล พาลเมอร์ ได้แจ้งกับสโมสรว่าต้องการขอย้ายทีมเพื่อโอกาสในการลงสนาม โดยแม้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะรับปากว่าเจ้าตัวจะได้ลงเล่นมากขึ้นอย่างแน่นอนในซีซั่นนี้ เนื่องจากการเตรียมขาย ริยาด มาห์เรซ ออกไป แต่ พาลเมอร์ ก็ยังยืนยันที่จะออกจากทีมเนื่องจากต้องการลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องมากกว่า

สุดท้ายแล้วก็เป็น "เชลซี" ที่เดินหน้าเจรจาก่อนคว้าตัวไปร่วมทีมได้สำเร็จ ด้วยค่าตัวถึง 40 ล้านปอนด์ภายใต้สัญญายาวถึง 7 ปี และก็เป็นนักเตะตัวหลักของ "สิงห์บลูส์" มาตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยลงสนามให้ทีมมาแล้ว 10 นัด ยิงได้ 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์

ส่วนนามทีมชาติ โคล พาลเมอร์ เคยติดทัพ "สิงโตคำราม" มาแล้วทุกชุดตั้งแต่ U15 ถึง U21 และก็เชื่อว่าหากทำผลงานได้แบบนี้อย่างต่อเนื่อง โอกาสที่จะก้าวสู่การติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม