ควันหลงจากมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 "ซีเกมส์ 2023" ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 ที่ผ่านมา โดยในการแข่งขันกีฬา คิกบ็อกซิ่ง ได้มีเรื่องราวที่เป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ สำหรับ "จิมมี่" พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ที่เจ้าตัวได้โชว์ลีลาแสดงความเป็นตัวตนของเขาว่าเป็น LGBTQ+ หลังเอาชนะคู่แข่งจากเวียดนามและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ การันตีคว้าเหรียญทองแดงได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม "จิมมี่" ได้เปิดเผยว่า ตนเองเกือบจะไม่ได้ลงแข่งรอบตัดเชือก เหตุสมาพันธ์คิกบ็อกซิ่งเอเชียไม่เห็นด้วยกับการแสดงท่าทางในลักษณะ LGBTQ+ และขู่ว่าหากยังแสดงกิริยาเช่นนี้อีกจะถูกตัดออกจากการแข่งขัน พร้อมทั้งให้เจ้าตัวเซ็นเอกสารยืนยันว่าจะไม่แสดงกิริยาท่าทางแบบที่เคยทำบนเวทีอีก จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตทั้งในและต่างประเทศ ที่มองว่าไม่ควรปิดกั้นกับความหลากหลายทางเพศและเสรีภาพในการแสดงออกของนักกีฬา
ล่าสุด สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า การให้สัมภาษณ์ของ "จิมมี่" เป็นเรื่องจริง และทีมคิกบ็อกซิ่งไทยต้องขู่จะถอนทีมทั้งหมดพร้อมเดินหน้าเอาเรื่องถึงที่สุด จิมมี่ ถึงลงแข่งขันต่อไปได้
"สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ขอยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดที่น้องได้พูดถึงเรื่องการโดนข่มขู่นั้นเป็นเรื่องจริง" ส.คิกบ็อกซิ่งไทย ระบุ
"น้องจิมมี่โดนบังคับให้เซ็นสัญญาว่าจะไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากทางสมาพันธ์คิกบ็อกซิ่งเอเชียนั้นไม่เห็นด้วยกับการแสดงท่าทางในลักษณะ LGBTQ+ และถ้าน้องไม่เซ็นสัญญานั้น น้องจะไม่ได้เเข่งขันต่อ และยังขู่หลังจากที่น้องแข่งขันในวันแรกว่าถ้าน้องยังแสดงกิริยาเช่นนี้ ต่อให้ผลการแข่งขันชนะ น้องก็จะต้องโดนปรับแพ้ค่ะ"
"ทางสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย จึงต่อรองกับทางสมาพันธ์ไปว่า ถ้าน้องไม่สามารถแข่งขันต่อได้ เราจะถอนทีมของเราจากการแข่งขันทั้งหมดและเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากเราสนับสนุนและเคารพในจุดยืนของน้องเสมอค่ะ"