รู้จักกับ "น้องโรเตอร์" ลูกชาย "พีท ทองเจือ" นักแข่งดาวรุ่งที่ขอเดินตามรอยพ่อ

เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นก็ว่าได้ สำหรับ “น้องโรเตอร์” ลูกชายของนักแสดงชื่อดัง "พีท ทองเจือ" ที่มีความฝันที่จะเป็นนักแข่งเหมือนคุณพ่อ และตระเวนแข่งรถในทัวร์นาเมนต์ต่างๆตั้งแต่เด็ก โดยมีครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ล่าสุด "น้องโรเตอร์" ประสบความสำเร็จไปอีกก้าว เมื่อคุณพ่อ พีท ทองเจือ เปิดเผยผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ลูกชายไปคว้าแชมป์แข่งรถ รายการ “Super Race Championship” ที่ประเทศเกาหลีใต้ นับเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน และเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

ประวัติ "น้องโรเตอร์"
"น้องโรเตอร์" ลูกคนสุดท้องของคุณพ่อ พีท ทองเจือ และคุณแม่ เจ็ง วิไลลักษณ์ ชื่นชอบในกีฬาเอ็กซตรีมโดยเฉพาะการแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก และได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามคุณพ่อที่ไปแข่งรถรายการต่างๆอยู่เสมอ จนได้โอกาสเริ่มขับรถแข่งครั้งแรกตั้งแต่อายุได้เพียง 5 ขวบเศษ โดยแข่งประเภททางฝุ่น (แรลลี่) ก่อนหันมาแข่งรถ โกคาร์ท เนื่องจากด้วยอายุ ณ เวลานั้นไม่สามารถมีใบอนุญาตแข่งรถได้

โดยน้องโรเตอร์ลงแข่งโกคาร์ทปีแรกก็ได้รองแชมป์ทันที และแข่งมาเรื่อยๆ พอ 9 ขวบก็เป็นแชมป์ และได้แชมป์ประเทศไทยหลายปีติดต่อกัน จนกลายเป็นนักกีฬาเยาวชนกึ่งอาชีพ มีสปอนเซอร์เข้ามาดูแลให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

พีท ทองเจือ เคยพูดถึงลูกชายไว้ว่า มีจุดเด่นอยู่ที่ความใจเย็นและรอบคอบ มีการวางแผนตลอดเวลา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของนักแข่ง

       "หลายครั้งที่ผมดูเขาตอนแข่ง น้องขับมาอยู่ที่ 2 ไม่ยอมแซง ก็เห็นว่าเขาพยายามแซงนะ ผมก็ถามเขาทำไมไม่แซง เมื่อกี้แซงได้ตั้งหลายทีนะ เขาก็บอกว่าถ้าแซงไปมันเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้รถเกี่ยวกัน และมันจะหมุนหลุดไปทั้งสองคัน ต้องไปเริ่มต้นใหม่ เขาไม่โอเค เขาขอตามก่อน แล้วฮีทหน้าค่อยหาทางจัดการรถคันหน้า ซึ่งก็ทำให้เห็นว่ากระบวนการเรียบเรียงความคิดของเขาเร็วมาก และมีการวางแผนตลอดเวลา ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักแข่ง" คุณพ่อ พีท กล่าวผ่าน praew.com

ทั้งนี้เมื่อกลางปี 2564 "น้องโรเตอร์" เคยเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตกอกตกใจไม่น้อย เมื่อเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บที่บริเวณสะโพกอย่างหนักจากการเล่นเซิร์ฟสเก็ต แต่หลังจากเลือกใช้วิธีการทำกายภาพบำบัด การจัดกระดูกและออกกำลังกายในน้ำแทนที่การผ่าตัดที่อาจส่งผลกระทบมากกว่า ในที่สุดน้องโรเตอร์ก็กลับมาหายเป็นปกติได้อีกครั้ง ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวและคนใกล้ชิดทุกคน