svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สคอ.-สสส. รณรงค์ "ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย" ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์

เครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมกับ สสส. รณรงค์ "ดื่มแล้วขับ อาจเป็นฆาตกร" ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ 2568 เผย สงกรานต์ที่ผ่านมา เหยื่อจากผู้ดื่มแล้วขับสูงถึง 207 ราย เฉลี่ย ชม.ละ 1 ราย พร้อมหนุนคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง ลดความสูญเสียในช่วงเทศกาล

9 เมษายน 2568 นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 วันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนส่วนมากจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อการท่องเที่ยว หรือเดินทางกลับภูมิลำเนา หาครอบครัว การเดินทางของประชาชนส่วนใหญ่ จะใช้รถยนต์เป็นหลัก โดยเดินทางรวมกลุ่มหรือหมู่คณะมากกว่าปกติ  หากเกิดอุบัติเหตุจึงมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต และการบาดเจ็บที่มีความรุนแรงมากกว่าช่วงเวลาปกติ

ซึ่ง ทาง สคอ.และ สสส.ก็ได้ร่วมสื่อสารประชาสัมพันธ์เช่นเดียวกัน เน้นย้ำเรื่อง "ดื่มแล้วขับ อาจเป็นฆาตกร" เพื่อสร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัยและสื่อสารกระตุ้นเตือนให้คนตระหนักถึงผลกระทบของการดื่มแอลกอฮอล์ หลังถูกดูดซึมเข้าร่างกายส่งผลต่อการขับขี่ ทำให้ตอบสนองช้าลง ตัดสินใจเบรกไม่ทัน กะระยะผิดพลาด นำไปสู่อุบัติเหตุและการสูญเสีย การตัดสินใจขับขี่เพียงเสี้ยววินาทีอาจเป็นตัวแปรที่เปลี่ยนชีวิตของผู้ใช้ถนนไปตลอดชีวิต ซึ่งสงกรานต์ที่ผ่านมามีเหยื่อจากผู้ดื่มแล้วขับ สูงถึง 207 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 ราย และจากข้อมูลของ ศปถ. ได้สรุปสถิติอุบัติทางถนนสะสม 7 วัน (วันที่ 11-17 เมษายน 2567) เกิดอุบัติเหตุสะสมรวม 2,044 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 2,060 ราย ผู้เสียชีวิต 287 ราย สาเหตุเกิดจากขับเร็ว 41.49% ดื่มแล้วขับ 22.7% ตัดหน้ากระชั้นชิด 18.1%  

นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเดินทางไกลควรยึดหลักการ "รถพร้อม คนพร้อม" คือ 

1.คนพร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง  ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ ไม่กินยาแก้ปวด แก้แพ้ หรือแก้หวัดที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วง ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง เคารพกฎจราจร มีวินัยในการขับขี่ หาข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 

2. รถพร้อม ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง เช่น เข็มขัดนิรภัย น้ำมันเบรค ผ้าเบรค น้ำมันเครื่อง อุปกรณ์ไฟ น้ำในหม้อน้ำ เช็คลมยาง เตรียมอุปกรณ์ประจำรถที่จำเป็น 

3.พักรถพักคน หยุดพักรถเป็นระยะๆ เพื่อให้รถยนต์ได้พัก และระหว่างนี้ผู้ขับสามารถยืดเส้นยืดสาย คลายความเมื่อยล้าจากการขับรถ  

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือ การทำประกันภัยรถช่วงสงกรานต์แม้เพียงเวลาสั้นๆ แค่ 7 วัน ก็สามารถเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ และปัจจุบันี้ค่าเบี้ยทำประกันภัยหรือ พ.ร.บ.รถไม่กี่บาท และเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับหากเกิดเหตุ จากข้อมูลของบริษัททกลางคุ้มคร้องผู้ประภัยจากรถ จำกัด ระบุว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาพบว่า ช่วง 7 วัน มีผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย พ.ร.บ. เนื่องจากรถคันที่เกิดเหตุไม่มีประกันภัย พ.ร.บ. สัดส่วนสูงถึง 34 % ดังนั้นจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีรถและเดินทางในช่วงเวลาเทศกาลต้องตรวจสอบว่ารถตนเอง มีพ.ร.บ.และประกันภัยครบหรือไม่ หากยังไม่มีต้องรีบไปดำเนินการโดยด่วน เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นทุกคนจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงทีตามกฎหมาย หากยังไม่มีต้องรีบไปดำเนินการโดยด่วน เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นทุกคนจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงทีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ เมื่อถึงยังพื้นที่จุดหมายปลายทางแล้ว ยังมีความเสี่ยงในการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น คือ หากเข้าไปยังพื้นที่เล่นน้ำต้องระวังถนนลื่น ไม่ควรนั่งท้ายกระบะ เหตุทะเลาะวิวาท ลวนลาม และเมื่อขับรถไปเจอคนเล่นสาดน้ำให้ลดความเร็วลง เว้นระยะห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติให้อยู่ในระยะปลอดภัย จะช่วยให้เบรกได้ทัน ที่สำคัญคือ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและขณะขับขี่โดยเด็ดขาดเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เป็นการทำผิดกฎหมาย  เพราะเทศกาลนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการประสานงานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านคุมเข้มในพื้นที่แบ่งเป็น 3 สี คือ 

  • ปกติ = สีเขียว 
  • หากมีการตั้งวงดื่ม = สีเหลือง
  • ส่วนกิจกรรมเฉลิมฉลอง มีเวทีดนตรีหรือคอนเสิร์ต = สีแดง ต้องคุมเข้มเป็นพิเศษ 

"ฝากไว้ว่าการดื่มมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อน ครอบครัวเดือดร้อน และจะสร้างความสูญเสียให้กับคนอื่นได้ตลอดเวลา เพราะมื่อดื่มแล้วขับ ก็อาจกลายเป็นฆาตรกรได้โดยไม่ทันตั้งตัว"  ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวทิ้งท้าย



ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : macrovector จาก Freepik