จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก สนามข่าวเมืองปราการ ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความระบุว่า "ไม่คุยกันอีกแล้ว รื้ออันไหนทำใหม่ดีล่ะ 7-11 ตรง ซ.เทพรัตนโมลี 21 ถ.หลวงแพ่ง"
โดยภาพดังกล่าว เป็นภาพที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ซอยเทพรัตนโมลี21 ถ.หลวงแพ่ง ที่มีการเทปูนทับพื้นเดิม จะระดับทางเดินเท้าสูงระดับเดียวกันกับที่พักนั่งรอรถเมล์ของเดิม ที่ตั้งไว้ก่อนแล้ว ซึ่งภายหลังที่ทางเพจได้โพสต์ข้อความ และภาพดังกล่าวออกไป มีผู้ใช้โซเชียล ต่างเข้ามาแสดงความคิดแห็นจำนวนมาก อาทิ นั่งเยียดขารอรถ สบายใจดี ,เอาไว้นั่งพับเพียบ รอรถอย่างเรียบร้อย,คนมีสติมีความคิดเขาไม่ทำกันแต่คนมักง่ายทำค่ะ ,เราคนไทย นั่งแบบไทยเรียบร้อยดี ,ฝ่ายบริหารคงอยากให้ประชาชนสควอท เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
7 ธันวาคม 2567 ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยพระเทพรัตนโมลี 21 และได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณป้าเอ๋ อายุ 58 ปีซึ่งขายของอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประสานงานกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งคนงานเองก็ไม่กล้าจะไปรื้อที่นั่งของป้ายรถเมล์ดังกล่าวออก เนื่องจากว่าเป็นของหลวง ถ้าไปรื้อสุ่มสี่สุ่มห้าก็อาจจะทำให้ติดคุกได้
โดยวันที่เขามาเทปูนเทถนนก็ได้มีการมาสอบถามบริเวณแถวป้ายรถเมล์แล้วว่า รถเข้าออกได้หรือไม่อย่างไร แต่พอมาเทที่ป้ายรถเมล์กลับไม่รื้อเก้าอี้ป้ายรถเมล์ออก เนื่องจากหัวหน้าไม่ได้สั่งไว้สั่งแค่ว่าให้เทปูนจึงไม่กล้ารื้อออก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
สำหรับผู้โพสต์รูปดังกล่าวมักจะใช้ป้ายรถเมล์นี้อยู่ประจำก็อาจจะทำให้เขาลำบาก เนื่องจากว่ามันนั่งไม่ได้ต้องนั่งพับเพียบหรือนั่งขัดสมาธิเท่านั้นถึงจะนั่งได้ตนก็เข้าใจ และเห็นใจทุกฝ่าย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางสาว วรรณภา อายุ 46ปี คนขายลูกชิ้นบริเวณป้ายรถเมย์ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้มาเทปูนเมื่อเย็นวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 6 ธันวาคม ผู้โพสต์ได้มาใช้บริการเห็น จึงได้เกิดเรื่องราวดังกล่าวในโลกโซเชียล
แต่พอหลังจากตกเย็นวันนั้น (6 ธ.ค.67) เจ้าหน้าที่ก็ได้มาทำการแก้ไข รื้อเก้าอี้ออก ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการแก้ไขโดยจากที่ตนมาเห็นว่ามีการเทปูนเสมอกับเก้าอี้จนคนไม่สามารถนั่งได้ต้องนั่งพับเพียบหรือนั่งขัดสมาธิเท่านั้น ตนก็คิดอยู่ในใจแล้วว่า ยังไงเจ้าหน้าที่คงต้องกลับมาแก้ไขแน่นอน กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น