svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

มสธ.แถลงโต้ สว.อภิปรายกล่าวหา แจงยิบ ทุกประเด็นทำถูกตามกฎหมาย

มสธ.แถลงโต้ สว.อภิปรายกล่าวหา ผู้บริหารขาดธรรมาภิบาล ยกข้อกฎหมายแจงยิบ ทุกประเด็นกระทำถูกต้องตามกฎหมาย

3 กันยายน 2567 จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่อาคารรัฐสภา มีสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่ง แถลงข่าวเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาการขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรงในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เนื่องจากการติดตามตรวจสอบการบริหารราชการงานของ มสธ. พบว่า มีปัญหาการขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรงมากว่า 7 ปี

โดยมีปัญหาสำคัญ อาทิ 1. สภา มสธ. นำเงินรายได้ จำนวนกว่า 5,500 ล้านบาทไปลงทุนกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ซึ่งส่อว่าขัดกับ พรบ. มสธ. พ.ศ. 2521 อาจจะผิดวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัย 2. ปัญหาการร้องเรียนผู้บริหารประพฤติมิชอบในโครงการต่าง ๆ 3. ปัญหาการยืมตัวข้าราชการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมารักษาการอธิการบดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ 4. การจัดทำระบบการเงินของ มสธ. ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ และปัญหาการแต่งตั้งอธิการบดีคนใหม่ จึงขอเสนอให้ใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา เข้าควบคุมการจัดการ มสธ.โดยทันที โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงกรรมการสภามหาวิทยาลัย และหาบุคคลที่มีความชอบธรรม เพื่อให้สามารถสรรหาอธิการบดีและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย นั้น

ผู้สื่อข่าวข่าวรายงานว่า ต่อมาวันที่ 28 ส.ค.ทาง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ออกคำแถลงการณ์ เรื่อง ข้อเท็จจริงกรณีการกล่าวพาดพิงมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ความว่าตามที่มีการกล่าวพาดพิงมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 7 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง เมื่อวันอังคารที่ 27 ส.ค.  ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับสภามหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจึงของขอชี้แจง

ว่ากรณีการกล่าวพาดพิงเป็นการกล่าวพาดพิงที่เป็นเท็จทุกกรณี สภามหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยขอยืนยันว่าการปฏิบัติงานของ มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลทุกประการ ซึ่งในทุกกรณีของการกล่าวพาดพิง มหาวิทยาลัยได้รายงานข้อมูล ที่ถูกต้องพร้อมข้อกฎหมายไปยังกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มหาวิทยาลัยขอเรียนว่า กรณีการดำเนินการในการนำเงินรายได้ไปลงทุนในระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดกรอบอำนาจให้ดำเนินการได้ โดยได้ดำเนินการตามอำนอำนาจที่กฎหมายบัญญัติไว้ในมาตรา 11 และมาตรา 15 แห่ง พรบ.มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521 ประกอบกับ ข้อ 42 (8) และ ข้อ 43 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ว่าด้วยการบริหารเงินรายได้และทรัพสินของมหาวิทลัย พ.ศ. 2561 และข้อ 42 (9) แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ว่าด้วยการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ อดีตรัฐมตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯได้เคยรับทราบและชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางสื่อของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ว่ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชสามารถนำเงินไปลงทุนได้ตามกฎหมาย 

และได้รับประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนจำนวนกว่า 200 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและเป็นประโยชน์กับมหาวิทยาลัยการกล่าวอ้างว่าการนำเงินไปลงทุนนั้นขาดทุนสะสมหลายร้อยล้านบาทจึงเป็นคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ 

สำหรับกรณีการจัดทำโครงการพัฒนาระบบบทดสอบอบออนไลน์ เนื่องจากมหาวิทยาลัยประสบปัญหาไม่สามารถจัดสอบแบบเผชิญหน้าได้ในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทำให้มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องสร้างระบบทดสอบออนออนไลน์

มหาวิทยาลัยจึงต้องจ้างที่ปรึกษาในโครงการพัฒนาระบบทดสอบออนไลน์ ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายของมหาวิทยาลัย ไม่เกี่ยวข้องกับสภามหาวิทยาลัยแต่อย่างใด มหาวิทยาลัยได้ชี้แจงกรณีนี้นี้กับทางกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ถึงความโปร่งใสและประโยชน์ที่มหาวิทยาลัยได้รับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

นอกจากนี้ กรณีการยืมตัวข้าราชการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมารักษาการอธิการบดีเป็นการดำเนินการแต่งตั้งของสภามหาวิทยาลัยที่มีอำนาจตาม พรบ.มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521 และระเบียบที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับค่าตอบแทนในตำแหน่งบริหารเพียงตำแหน่งเดียว การรับเงินเดือนและค่าตอบแทนเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการทุกประการเช่นกัน และกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ได้แสดงความเห็นต่อรายงานการเงินของ มสธ. เป็นการให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะให้บางหน่วยงาน บันทึกบัญชีให้ตรงกับระบบบัญชีส่วนกลางของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้เป็นประเด็นในเรื่องของงบการเงินรวม ซึ่งกรณีนี้มหาวิทยาลัยได้รับข้อสังเกตและดำเนินการตามคำแนะนำแล้ว

จากกรณีที่ได้กล่าวไปข้างต้น มหาวิทยาลัยขอยืนยันถึงความโปร่งใส่ในการปฏิบัติงานที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งการเคารพต่อหน่วยงานที่กำกับดูแลด้วยการรายงานให้ทราบข้อเท็จจริงเป็นระยะมหาวิทยาลัยจึงขอให้ผู้ที่รับทราบข้อมูลข่าวสารโปรดอย่าหลงเชื่อข้อมูลอันเป็นเท็จ

มสธ.แถลงโต้ สว.อภิปรายกล่าวหา แจงยิบ ทุกประเด็นทำถูกตามกฎหมาย