21 กรกฎาคม 2567 เป็นเรื่องราวที่โซเชียลมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กรณีญาติคาใจร้องข้อความเป็นธรรม จากเพจ "บิ๊กเกรียน" กรณีการเสียชีวิตของญาติ คือ นายกฤษณ์ หนุ่มขับรถรับส่งสนามบิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ที่ผ่านมา
โดยนายกฤษณ์ โทรบอกแฟนสาวว่า มีอาการปวดหัวรุนแรงระหว่างขับรถ จากนั้นได้ขับรถไหลไปชนรถคันอื่น ต่อมาถูกคุมตัวมาที่ สน.ยานนาวา นานถึง 2 ชม. เจ้าหน้าที่แจ้งกับญาติว่า เมาแล้วขับ เร่งให้ติดต่อประกัน ขณะที่ญาติพยายามแจ้งตำรวจว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยไม่ดื่มสุรา
ต่อมานายกฤษณ์มีอาการช็อคหมดสติ ทรุดร่วงคาเก้าอี้ที่ สน. กระทั่งเวลา 21.00 น. ญาติร้องขอให้ส่ง รพ. เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถกู้ภัยนำส่ง รพ.และพบว่า เส้นเลือดในสมองแตก นอนไอซียู 3 วัน และเสียชีวิตในวันที่ 16 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ญาติจึงอยากร้องขอความเป็นธรรม ให้ตำรวจนำเคสนี้ไปเป็นกรณีศึกษา โดยร่างของนายกฤษณ์ ประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ที่วัดบุญยประดิษฐ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันอังคาร (23 ก.ค.) ที่จะถึงนี้
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สน.ยานนาวา และได้ทราบมาว่า พนักงานสอบสวนวันเกิดเหตุคือ พ.ต.ต.ธิระสาร นรินทร์สรศักดิ์ สารวัตรสอบสวน สน.ยานนาวา และเพิ่งออกเวรไป จึงได้โทรสอบถามไปยัง พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก. สน.ยานนาวา ได้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตขับรถมาในเส้นเจริญกรุง ใกล้ห้างสรพพสินค้าชื่อดัง ย่านบางรัก
จากนั้นได้ขับรถไหลไปชนรถคันอื่น เจ้าที่จราจรและพนักงานสอบสวน ได้ลงพื้นที่และพบรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ขับไหลไปชนรถคันอื่น ขณะที่ผู้เสียชีวิตมีอาการไม่ค่อยดี ติดอยู่ภายในรถ ไม่สามารถเปิดประตู ไม่สามารถเรียกให้ผู้เสียชีวิตเปิดประตูได้ จึงได้ใช้รถยกลากมาที่ สน. พร้อมทั้งตัวผู้เสียชีวิต ซึ่งติดอยู่ภายในรถ พอมาถึง สน.ได้นำตัวผู้เสียชีวิตมานั่งพัก ที่เก้าอี้โรงพัก ซึ่งในวันนั้นก็ไม่พบกลิ่นแอลกอฮอล์ ที่ตัวผู้เสียชีวิต แต่พบร่องรอยของคราบอาเจียน
เมื่อมาถึง สน.ประมาณ 15 นาที ผู้เสียชีวิตมีอาการช็อกหมดสติ เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และได้ทำหนังสือส่งไปที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจเรื่องแอลกอฮอล์ และจากการตรวจพิสูจน์แล้วก็ไม่พบแอลกอฮอล์ในวันนั้น จากนั้นทางโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ยืนยันว่า ตำรวจทำตามขั้นตอน เนื่องจากไม่สามารถพูดคุยกับผู้เสียชีวิตได้ในเวลานั้น จึงต้องนำตัวมายังโรงพัก และไม่ได้มีการควบคุมตัวไว้ในห้องขัง และใช้เวลาไม่นานจึงเรียกกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเส้นเลือดในสมองแตก ตั้งแต่อยู่ภายในรถที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามทางด้านผู้กำกับ สน.ยานนาวา ยินดีที่จะให้ญาติมาพูดคุยชี้แจงรายละเอียดในวันอังคารที่จะถึง เนื่องจากติดวันหยุดทางราชการ
"เอกภพ" ของตำรวจเป็นบทเรียนในการปฏิบัติหน้าที่
ขณะที่วันนี้ (21 ก.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมาที่วัดบุณยประดิษฐ์ หลังได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวมะนาว อายุ 39 ปี (สงวนนามสกุล) ได้ร้องเรียนและขอความเป็นธรรมหลังแฟนหนุ่ม เสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เพราะเข้ารับการรักษาล่าช้า
โดยนางสาวมะนาวเปิดใจเล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 13 ก.ค.67 แฟนของเธอได้ขับรถของสนามบิน ไปรับลูกค้าจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปส่งที่โรงแรมย่านยานนาวา พอส่งลูกค้าเสร็จระหว่างเดินทางกลับ แฟนหนุ่มได้โทรศัพท์หาพร้อมบอกว่าปวดหัวมากและอาเจียน ตนจึงบอกให้แฟนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ระหว่างขับรถไปโรงพยาบาลแฟนหนุ่มเริ่มมีอาการหนัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันอื่นหลายคัน พอโทรศัพท์หาแฟนเบอร์แรกไม่รับสาย จึงโทรเข้าอีกเครื่องซึ่งเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธของรถและรับสายอัตโนมัติ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถ โวยวาย และบอกให้แฟนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้ยินเสียงแฟน จึงวางสายไป
จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แม่ของแฟนก็โทรศัพท์มาหาตนบอกว่า ตำรวจโทรมาบอกว่า แฟนเมาแล้วขับรถไปชนคันอื่น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา ตนติดธุระอยู่ต่างจังหวัดจึงให้แม่ไปที่โรงพักก่อน ระหว่างนั้นตนก็โทรศัพท์หาตำรวจ ขอคุยกับแฟนและขอให้พาแฟนไปส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะแฟนป่วย และยืนยันว่าแฟนไม่ได้เมา แต่ตำรวจไม่ยอมให้คุยกับแฟน บอกว่าแฟนไม่ยอมลงจากรถ และให้รีบตามบริษัทประกันมาที่ สน.ด่วน
จากนั้นประมาณ 3 ทุ่ม ตนจึงวิดีโอคอลหาพี่ชายของแฟนที่อยู่ สน. พบว่า แฟนหมดสติไปแล้ว กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลเกือบ 4 ทุ่ม แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่า มาช้าไป หลังจากนั้นก็พยามรักษาตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในใบรับรองแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงตรวจสอบ GPS ย้อนหลัง พบว่า แฟนอยู่ที่ สน.ยานนาวา เกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งตนมองว่า หากนำส่งโรงพยาบาลเร็วกว่านี้แฟนอาจไม่เสียชีวิต
ส่วนจะดำเนินคดีกับทางตำรวจ สน.ยานนาวา หรือไม่ คุณมะนาวบอกว่า หลังจากแฟนหนุ่มเสียชีวิต ทางแพทย์ได้นำเลือดของแฟนหนุ่มไปตรวจหาแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ยืนยันว่าแฟนไม่เคยมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับแน่นอน หากผลตรวจออกมาพบว่า ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ก็จะปรึกษากับฝ่ายกฎหมาย อาจจะดำเนินการทางกฎหมายกับตำรวจ สน.ยานนาวา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แฟนหนุ่ม ซึ่งตอนนี้อยากได้คำขอโทษ เพราะวันนี้สูญเสียคนในครอบครัวไป และหลังเกิดเหตุตนและครอบครัว ยังไม่ได้รับการขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบจากตำรวจเลย แม้กระทั่งพวงหรีดแสดงความเสียใจก็ยังไม่ได้รับ
ด้านนายเอกภพระบุว่า กรณีนี้เป็นบทเรียนราคาแพง ให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ และระมัดระวังมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้กล่าวโทษว่า ตำรวจทำงานไม่ดีหรือบกพร่อง ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการทำงาน เพราะเป็นเรื่องของชีวิตคน แต่อยากให้ใช้ความระมัดระวัง พร้อมเน้นย้ำว่า เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
สำหรับกรณีนี้ผู้เสียหายที่ถูกผู้ตายเฉี่ยวชน ยังมีความเห็นอกเห็นใจ บอกให้ตำรวจรีบพาผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า จากที่เข้าไปดูอาการผู้ตายเบื้องต้น ไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ติดที่ตัวเลย แต่ดูก็รู้แล้วว่าป่วย ไม่ใช่คนเมา