27 มิถุนายน 2567 จากกรณี "หมอเหรียญทอง" ประกาศเตรียมถอน "รพ.มงกุฎวัฒนะ" ออกจากโรงพยาบาลคู่สัญญากับ ประกันสังคม มีผล 31 ธ.ค. 68 หลังถูกผู้ประกันตนหัวหมอ ไปรักษาที่อื่น แล้วร้องเรียนให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 8 หมื่นบาท โดยโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว และ เพจเฟซบุ๊ก "Mongkutwattana Hospital-โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ" ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา หรือ "หมอเหรียญทอง" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงการเตรียมถอนตัวจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคมเพิ่มเติม โดยยื่นข้อเสนอให้ "ผู้ประกันตน" คู่กรณีดำเนินการใน 2 เงื่อนไข เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนนับแสนคน โดยมีรายละเอียดระบุว่า..
ผมและบุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะได้อ่านข้อความในเฟซบุ๊ค ตลอดจนรับทราบความพึงพอใจของผู้ประกันตนจำนวนมากที่ใช้บริการกับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว
ทั้งได้รับทราบความเดือดร้อนของผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน หาก รพ.มงกุฎวัฒนะต้องถอนตัวออกจากระบบประกันสังคม
ในขณะเดียวกันก็ได้รับทราบว่าผู้ประกันตนจำนวนมากที่ให้กำลังใจผมและ รพ.มงกุฎวัฒนะอีกด้วย ทั้งๆที่ท่านทั้งหลายจะต้องเดือดร้อนจากการย้ายสิทธิจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไป รพ.ใหม่ แต่ท่านก็ยังเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความถูกต้อง
ผมขอเรียนตามตรงว่าผมรู้สึกเบื่อและท้อกับการใช้อำนาจบังคับจากหน่วยงานต่างๆ ดังเช่น 'คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533' ดังนั้นผมจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับใคร หรือฟ้องร้องใคร และขอใช้ชีวิตอย่างสงบ
แต่เมื่อคำนึงถึงผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน ที่จะต้องเดือดร้อนจากผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ 1 ราย และคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ใช้หัวแม่ตีนคิดสั่งการเพียงไม่กี่ตัวแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะหาทางออกว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้ประกันตนนับแสนต้องเดือดร้อน ผมจึงมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ดังต่อไปนี้
เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อมีการดำเนินการเป็นรูปธรรม ผมจะออกประกาศยกเลิกประกาศการถอนตัวออกจากระบบประกันสังคมทันที
อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามข้อ 2 มักไม่เกิดผล อันเนื่องจากการถือศักดิ์ศรีของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จากการเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ประกันตนจึงควรเตรียมการย้ายสิทธิไปยัง รพ.อื่นๆไว้ล่วงหน้าก่อน อย่าได้คาดหวังอะไรจากคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ เพราะคุณท่านทั้งหลายเหล่านี้มันยอมไม่ได้จากการถูกด่าที่มาจาก 'เสียงคำรามจากพระเจ้ามาราโดน่า' [Voice of God] พวกคุณท่านมันแค้นพระเจ้ามาราโดน่ามากๆครับ
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ร่างทรงเสียงคำรามจากพระเจ้ามาราโดน่า
27 มิ.ย.67 เวลา 10.50 น
เปิดใจ "หมอเหรียญทอง"
พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า คนไข้รายดังกล่าวเป็นหญิงอายุประมาณ 42 ปี ได้ไปใช้สิทธิ์รักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยคนนี้ ซึ่งได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปทั้งสิ้น ประมาณ 170,000 บาท โดยอ้างว่าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งปอดของเธอได้ จึงต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น
ทั้งที่จริงแล้วโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นผู้รักษาโรคมะเร็งปอดของเธอจนหายขาด แล้วมองว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทรยศทีมแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นอย่างมาก
หลังจ่ายค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐดังกล่าว เธอได้ไปทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาลกับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งสำนักงานประกันสังคม ได้จ่ายชดใช้ให้ประมาณ 90,000 บาท แต่ผู้ป่วยรายนี้ได้ไปยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติม ซึ่งสำนักงานประกันสังคม มีคำวินิจฉัยให้โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีกประมาณ 80,000 บาทให้กับผู้ป่วยรายนี้ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ์รักษา
หมอเหรียญทอง มองว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับโรงพยาบาลของตนเอง จึงมีความต้องการอยากจะถอนตัวออกจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ถ้าหากว่าผู้ประกันตนรายนี้ไม่ย้ายสิทธิ์การรักษาไปที่โรงพยาบาลอื่น และให้สำนักงานประกันสังคมยกเลิกคำวินิจฉัยดังกล่าว เพราะถ้าหาก 2 เงื่อนไขนี้ไม่เกิดขึ้นจริง ตนจะถอนตัวออกจากประกันสังคม ซึ่งจะทำให้มีผู้ประกันตนเกือบแสนคนได้รับความเดือดร้อน
หมอเหรียญทอง บอกอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องตนและคณะผู้บริหารโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้มีการโทรศัพท์สอบถามไปยังผู้ประกันตนรายนี้ ซึ่งผู้ประกันตนรายนี้ก็ยังดึงดันและอ้างว่า โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจำเป็นต้องจ่ายเงินอีกประมาณ 80,000 บาทที่เหลือ แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ผู้ประกันตนรายนี้โทรกลับมาหาคณะผู้บริหารฯ พร้อมกับร้องห่มร้องไห้และมีความประสงค์ที่จะไปถอนคำยื่นอุทธรณ์