30 พฤศจิกายน 2566 นายอนุพร อรุณรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงความสำคัญขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ว่า คณะกรรมาธิการชุดนี้ มีหน้าที่เพื่อการติดตามตรวจสอบการบริหารจัดการขององค์กรอิสระต่างๆ ว่า มีปัญหาอุปสรรค มีข้อขัดข้องในเรื่องใดหรือไม่ รวมถึงการติดตามผลการทำงานขององค์กรอิสระตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญระบุไว้
ซึ่งความสำคัญขององค์กรอิสระ คือ ต้องทำหน้าที่สร้างดุลยภาพระหว่างการบริหารที่มีประสิทธิภาพกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุจริต เที่ยงธรรม และมีส่วนในการป้องกันหรือแก้ไขวิกฤตของประเทศ ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยให้ชัดเจน และครอบคลุมอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
มีการวางกลไกป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มงวด เด็ดขาด เพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง หรือใช้อำนาจตามอำเภอใจได้ และการกำหนดมาตรการป้องกันและบริหารจัดการวิกฤตการณ์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายอนุพร กล่าวอีกว่า ส่วนในชั้นการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระของวุฒิสภานั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาในฐานะหน่วยธุรการของวุฒิสภา ปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อประธานวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 นั้น และยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการให้แก่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระด้วย
โดยมีการขอความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป ให้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ได้รับการเสนอชื่อ เพื่อให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อนำข้อมูลต่างๆ เสนอต่อคณะกรรมาธิการสามัญและวุฒิสภา สำหรับเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของวุฒิสภาในการใช้ดุลพินิจตัดสินใจให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อหรือไม่
จึงขอเรียกร้องเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการสรรหา และวุฒิสภา เพื่อให้ได้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่มีความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรมทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม เพื่อให้ได้บุคคลที่สามารถปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขององค์กรอิสระเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติในการใช้ดุลพินิจด้วย
"สังคมจะดีงามหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรใด องค์กรหนึ่งที่จะเป็นผู้รังสรรค์ให้เกิดสังคมที่ดีงามได้ หากแต่อยู่ที่การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน มีส่วนช่วยรังสรรค์ให้สังคมไทย ให้มีความดีงามเกิดขึ้นได้ โดยการเป็นส่วนหนึ่ง ในการได้มาซึ่งบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่าง ๆ ตามที่วุฒิสภาได้กำหนดให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการสามัญฯ" นายอนุพร กล่าว