ในวันนี้ หากจะเอ่ยชื่อ เจ้าสัว "ประยุทธ มหากิจศิริ" นักธุรกิจชื่อดัง ในวัย 77 ปี เจ้าของอาณาจักรโรงงานผลิตและจำหน่าย "เนสกาแฟ" ในวันนี้ ชื่อนี้ได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่กระทรวงคมนาคม ลงนามอนุมัติใบอนุญาตประกอบธุรกิจการบิน (AOL) สายการบิน P80 Air ของบริษัท พี 80 แอร์ จำกัด ( P80 AIR) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจของตระกูลมหากิจศิริ โดยคาดจะเริ่มทำการบินได้ในไตรมาส 3 ปี 2567 ประเดิมเส้นทางบินไปยังประเทศจีน
ชวนคอข่าว ร่วมส่องธุรกิจและเปิดความมั่งคั่ง "ตระกูลมหากิจศิริ" มีชื่อติดโผมหาเศรษฐีอันดับที่ 12 ของประเทศไทย และอันดับที่ 1,217 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 8.75 หมื่นล้านบาท ) จากการจัดโดยนิตยสาร Forbes ประจำปี 2566 โดยระบุว่า เจ้าสัวกาแฟของไทยได้ร่วมทุนกับเนสท์เล่มายาวนาน โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ควอลิตี้ คอฟฟี่ ( Quality Coffee) 90% สร้างรายได้จากวัฒนธรรมกาแฟที่กำลังเติบโตในประเทศ และยังสนใจธุรกิจเหล็ก ทองแดง การขนส่ง การขุดเจาะนอกชายฝั่ง และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
สำหรับในส่วนของ ทายาทเจเนอเรชั่นที่ 2 นายเฉลิมชัย ,อุษณีย์ และอุษณา ถือว่าเป็นขุมกำลังสำคัญในการรับไม้ต่อสืบทอด สืบสานธุรกิจของครอบครัว นายเฉลิมชัย ปัจจุบันเป็นซีอีโอของบริษัท PM Group
ส่วนลูกสาวคือ อุษณา มหากิจศิริ ทัพพะรังสี เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ PM Group และเป็นผู้ก่อตั้ง Coffee Gallery ซึ่งเป็นเครือร้านกาแฟ
สำหรับข้อมูลชุดล่าสุด ฐานเศรษฐกิจ สื่อดังในเครือเนชั่น ทำการเจาะธุรกิจในเงื้อมมือของ ตระกูล"มหากิจศิริ" ทำธุรกิจอะไรบ้าง ทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
กลุ่มธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ : PMTA
ดำเนินธุรกิจ : ถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมี Baconco ในประเทศเวียดนามเป็นบริษัทแกน ซึ่ง Baconco ประกอบธุรกิจหลักจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการเกษตร
มาร์เก็ตแคป : 890.56 ล้านบาท ( ณ 15 ก.ย.66 )
สินทรัพย์รวม 6 M/ปี66 : 2,518.32 ล้านบาท
หนี้สินรวม 6 M/ปี66 : 845.53 ล้านบาท
รายได้ 6 M/ปี66 : 1,368.31 ล้านบาท
กำไร/ขาดทุนสุทธิ 6 M/ปี66 : - 35.66 ล้านบาท
บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ : TTA
ดำเนินธุรกิจ : ลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยลงทุนในธุรกิจหลัก 5 กลุ่มได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น
มาร์เก็ตแคป : 12,210.51 ล้านบาท ( ณ 15 ก.ย.66 )
สินทรัพย์รวม 6 M/ปี66 : 44,677.44 ล้านบาท
หนี้สินรวม 6 M/ปี66 : 16,154.63 ล้านบาท
รายได้ 6 M/ปี66 : 11,335.66 ล้านบาท
กำไร/ขาดทุนสุทธิ 6 M/ปี66 : +844.73 ล้านบาท
บมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ : TFI
ดำเนินธุรกิจ : ผลิตฟิลม์ประเภทบรรจุภัณฑ์ และการพิมพ์ ได้แก่ BOPP Film, Polyester Film, CPP Film และ Metallized Film เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ
มาร์เก็ตแคป : 1,850.88 ล้านบาท ( ณ 15 ก.ย.66 )
สินทรัพย์รวม 6 M/ปี66 : 2,822.38 ล้านบาท
หนี้สินรวม 6 M/ปี66 : 620.95ล้านบาท
รายได้ 6 M/ปี66 : 210.65 ล้านบาท
กำไร/ขาดทุนสุทธิ 6 M/ปี66 : -186.12 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ มีดังนี้
ธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
บจก.พีเอช แคปปิตอล (PHC)
ดำเนินธุรกิจ : ร้าน Pizza Hut ในประเทศไทย
ถือหุ้นโดย : ภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ 70%
บจก. สยาม ทาโก้
ดำเนินธุรกิจ : ร้าน Taco Bell ในประเทศไทย
ถือหุ้นโดย : ภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ 70%
บจก. เคเอฟยู
ดำเนินธุรกิจ : ร้านขนมโดนัท ภายใต้แบรนด์ Krispy Kreme ในประเทศไทย
ถือหุ้นโดย : ได้รับลิขสิทธิ์จากบริษัทแม่ในสหรัฐฯ
บจก.ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส
ดำเนินธุรกิจ : โรงงานผลิตกาแฟให้กับแบรนด์เนสกาแฟ
ถือหุ้นโดย : ประยุทธ มหากิจศิริ ถือหุ้นอยู่ 51% ใน บจก. ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส
ธุรกิจสาธาณูปโภค
บจก.เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) : AIM
ดำเนินธุรกิจ : จำหน่ายน้ำประปาในเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว
ถือหุ้นโดย : AIM เป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ 80.5%
ธุรกิจขนส่ง
บจก. พี 80 เจ็ท (P80J)
ดำเนินธุรกิจ : ให้เช่าเครื่องบินเหมาลำ
ถือหุ้นโดย : P80J เป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้น 100%
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
บจก. พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้
ดำเนินธุรกิจ : อสังหาริมทรัพย์
ถือหุ้นโดย : TTA จับมือ 2 พันธมตรญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดย TTA ถือหุ้นอยู่ 60%
ธุรกิจบันเทิง
บจก.โฟร์วัน วันเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
ดำเนินธุรกิจ : ค่ายเพลง 411 Music
ถือหุ้นโดย : ดำเนินงานภายใต้การบริหารของ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ
สายการบินน้องใหม่ “P80 Air” ตระกูลมหากิจศิริ ได้ใบอนุญาตฯแล้ว พร้อมบินไตรมาส 3/67
นายสรกฤช วรรณลักษณ์ ที่ปรึกษาอาวุโสและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พี 80 แอร์ จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้งเพราะได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญในการต้องเร่งกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดันต้นๆที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาเยือน
ล่าสุดรัฐบาลได้ออกมาตรการวีซ่าฟรีเป็นการชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มจากชาวจีนและคาซัคสถาน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงไฮซีซันนี้ ซึ่งบริษัทได้เตรียมความพร้อมรองรับอุตสาหกรรมการบินที่จะกลับมาคึกคัก อยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจการบิน หรือใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขายการเดินอากาศ (Air Operating License : AOL) ตามด้วยการขอใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ หรือใบรับรองสายการบิน (Air Operator Certificate: AOC) เพื่อยืนยันว่าผู้ครอบครองเอกสารใบรับรองนี้ได้ผ่านการพิจารณาว่ามีความสามารถที่จะปฏิบัติการบินกับเครื่องบินของตนได้อย่างปลอดภัยโดยสำนักงานการบินแห่งประเทศไทย
นายสรกฤช เปิดเผยว่า ในขั้นตอนดำเนินการคาดว่าจะใช้เวลาอีก 8-10 เดือน และคาดว่าจะเริ่มทำการบินได้ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทั้งนี้บริษัทฯวางแผนเส้นทางบินจะเริ่มทำการบินไปยังประเทศจีน ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง B737-800 NG จำนวน 4 ลำในปีแรก สำหรับการบริการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและตัดสินใจของทางฝ่ายบริหารระดับสูง ซึ่งอาจจะมีการให้บริการในชั้นธุรกิจ (Business Class)หรือจะมีเฉพาะชั้นประหยัด (Economy Class) ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของความเหมาะสมด้านการตลาด
อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจการบิน หรือ AOL ของบริษัท พี 80 แอร์ จำกัด หรือ P80 AIR ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจของตระกูลมหากิจศิริ ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงนามอนุมัติการจัดตั้งสายการบินในประเทศ โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงฯเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาออกใบอนุญาตฯด้วย ทั้งนี้มีการระบุเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตฯว่าเป็น “การขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบประจำมีกำหนดและแบบไม่ประจำ ตลอดจนเรื่องการขนส่งคนโดยสาร สินค้าหรือไปรษณีย์ภัณฑ์ เพื่อบำเหน็จทางการค้า”
เปิดใจ "ประยุทธ มหากิจศิริ" พ่อตัวอย่างแห่งชาติ ภาคเอกชน ปี 2565 เผยเคล็ดลับความสำเร็จครอบครัว ดูแลกันด้วยความรักและเอาใจใส่ พร้อมถ่ายทอดความรู้ส่งต่อลูก 3 คน ให้มีความรับผิดชอบ เอาใจใส่ และไม่ประมาท สร้างความสำเร็จให้กับชีวิต และธุรกิจ
หากจะย้อนไปเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2566 สมาคมพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ได้จัดงาน "วันรวมใจพ่อ" ครั้งที่ 14 มอบรางวัล พ่อตัวอย่างแห่งชาติ ผู้ทรงคุณค่า ประจำปี 2565 โดยภาคราชการ มอบให้กับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และภาคเอกชน ได้แก่ นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ปส์
นายประยุทธ ได้กล่าวถึงหลักในการสร้างครอบครัว คือ ต้องรักษาความดีให้เป็นประโยชน์ การอยู่ร่วมกันของครอบครัว ซึ่งต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง ด้วยความรู้ความสามารถที่มี แต่เมื่อเกิดปัญหา ต้องไม่ใช้แต่เหตุผลของตัวเอง เพราะจะทำให้ต่างฝ่ายต่างเอาชนะ ควรใช้ความรักเป็นเหตุผลที่เข้ามาช่วยตัดสิน
"ครอบครัวต้องมีความสุข ต้องเข้าใจกัน ขอให้ทุกคนพยายามทำงาน คนทุกคนมีความสามารถมากกว่าที่เราคิด อยู่ที่ว่าเราจะขวานขวายเอาความสามารถออกมาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด"
นายประยุทธยังกล่าวอีก
เขาได้ส่งต่อหลักคิดในการทำงาน ที่สอนให้ลูกๆ ต้องรู้จักการเอาใจใส่ รับผิดชอบ ถ้ารับผิดชอบเอาใจใส่ ความสำเร็จก็จะเกิดง่ายขึ้น และที่สำคัญ ทำอะไรอย่าประมาณ การทำงานก็ต้องคำนึงเสมอว่า ยาพิษกินไม่ได้ฉันท์ใด การทำผิดกฎหมายก์ทำไม่ได้ฉันท์นั้น
สำหรับครอบครัว "มหากิจศิริ" ถือเป็นความโชคดีที่ลูกทั้ง 3 คน มีความรับผิดชอบ และได้ซึมซับสิ่งที่พ่อแม่ทำงานมาอย่างวิริยะอุตสาหะ ทุกคนเป็นคนดี ใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ ขณะนี้ธุรกิจที่พ่อสร้างมากกว่า 50 ปี กำลังส่งต่อสู่รุ่นลูก ซึ่งก็ถือเป็นช่วงที่หนักหนา เพราะการที่ลูกชาย "กึ้ง - เฉลิมชัย มหากิจศิริ" ปัจจุบันเป็นซีอีโอของบริษัท PM Group ซึ่งเขามารับสืบทอดกิจการ ต้องใช้เวลาเพียงสั้นๆ ในการศึกษางานทั้งหมด