17 กันยายน 2566 มีรายงานว่า นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ออกหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เรื่องสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 1/2566 ระบุว่า
ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝน คาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่ เสี่ยงน้ำหลาก และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม บริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่า มีความเสี่ยงอุทกภัย ในช่วงวันที่ 17 - 21 กันยายน 2566 นั้น
ปัจจุบัน มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไหลลงเหนือ เขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราที่เพิ่มขึ้น โดยข้อมูล วันที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 06.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่าน สถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 665 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ยกตัวสูงขึ้น อยู่ระดับ +16.50 ม.รทก.
และคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1.00-1.50 เมตร
โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว ยังคงอยู่ในตลิ่งลำน้ำ ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบ ต่อพื้นที่การเกษตร
หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลกระทบ ให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มากกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป