svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กองทุนสื่อฯ เปิดให้ทุนปี 67 หวังสร้างหนัง –ซีรีย์ ปลุกวงการ Content Creator

"กองทุนสื่อฯ" เปิดให้ทุนปี 67 ภายใต้วงเงิน 300 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างหนัง –ซีรีย์ ปลุกวงการ "Content Creator" ทั้งมือใหม่ และมืออาชีพกลับมาอีกครั้ง

8 กันยายน 2566 กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้มีการเปิดแถลงข่าว การเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม เพื่อขอรับการสนับสนุนเงิน ประจำปี 2567 วงเงินสนับสนุน 300 ล้านบาท จัดสรรโครงการเปิดรับทั่วไป  80 ล้านบาท โครงการความร่วมมือ 40 ล้านบาท 

ซึ่งก็มีประเด็นน่าสนใจ สำหรับโครงการเปิดรับทั่วไป ที่นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายเดิม เหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา ในปีนี้มีการพูดถึงกลุ่มบุคคล ที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT  โดย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระบุว่า จุดยืนของกองทุน “ไม่เน้น-ไม่ปฏิเสธ” ต่อการมีส่วนร่วมของกลุ่ม LGBT  โดยจะดูที่เนื้อหาโครงการ และผู้ขอรับการสนับสนุนทุนว่า เป้าหมายการผลิตสื่อ เพื่อกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงสื่อได้ โดยปกติหรือไม่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ส่วนโครงการเชิงยุทธศาสตร์จัดสรร 180 ล้านบาท ขอบเขตโครงการเน้นสร้างผลกระทบ (Impact) ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก อาทิ  พหุวัฒนธรรมและความหลากหลายทางสังคม รู้เท่าทันสื่อ รับมือข้อมูลบิดเบือน ประทุษวาจา และการระรานในโลกออนไลน์ การสร้างมูลค่าจาก Soft Power  

ขณะเดียวกันมีการเพิ่มประเด็นใหม่ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายพอสมควรคือ การผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กและเยาวชน ละครชุดเพื่อส่งเสริมศีลธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม และความมั่นคง ภาพยนตร์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความสามัคคี และใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายได้อย่างเป็นสุข
กองทุนสื่อฯ เปิดแถลงข่าว การเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม เพื่อขอรับการสนับสนุนเงิน ประจำปี 67

ดร.ธนกร  กล่าวว่า ในรอบ 2 - 3 ปีที่ผ่านมากองทุนสื่อฯ เอาประเด็นเป็นตัวตั้ง ในปีนี้ เราอยากได้โครงการขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพราะต้องการให้ผู้รับทุนสร้างผลงาน ที่ก่อผลกระทบทางสังคมได้ บางทีเราถูกโจมตีว่า เราให้ทุนกับบริษัทขนาดใหญ่ แต่ปรัชญาของทุนเชิงยุทธศาสตร์ เราต้องการให้เอาเงินไปทำงานแล้วเกิดผลงาน ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง 
 

“เราอยากมีภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่องสะท้อนภาพประเทศไทย สามารถนำไปฉายต่างประเทศได้ ทุกคนเข้าถึง ทันสมัย ไม่ใช่ยัดเยียด ต้องการมืออาชีพนำเสนอที่เราเห็นแล้วเหมือน Soft Power เหมือนเราดู King The Land ของเกาหลี EP.10 ซึ่งมาถ่ายทำที่ประเทศไทย” 


เร่งสร้างสมดุลระเบียบราชการ - ภาระผู้รับทุน 

เป็นที่รับทราบและพูดถึงกัน ในกลุ่มคนที่ต้องการยื่นขอรับทุน แม้กระทั่งในเวทีประชุม ของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ก็คือความยุ่งยาก เงื่อนไขการขอรับทุน หลักเกณฑ์การพิจารณา สิ่งเหล่านี้เป็น Dilemma ระหว่างคนทำสื่อ ไอเดียสร้างสรรค์ กับระเบียบราชการซึ่งมักจะสวนทางกัน 

“งานสื่อต้องเข้าใจว่า มีความเป็นนามธรรมสูง ไม่เหมือนงานก่อสร้าง ตรวจเสปคใช้เหล็กเท่าไหร่ ขุดลึกเท่าไหร่ แต่งานสื่อมีความเป็นสังคมศาสตร์ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ทัศนคติ มุมมอง อันที่ยากอันหนึ่งที่กองทุนกำลังพิจารณาปรับปรุง คือ รายงานทางการเงิน เราคิดว่า เงินให้ไปแล้วควรพิจารณาผลลัพธ์เป็นหลัก แต่มีหลายโครงการที่ทำงานเสร็จแล้ว งานดีด้วย แต่รายงานทางการเงินไม่เรียบร้อย

ปัญหานี้เรารับรู้มาโดยตลอด กำลังหาทางแก้ไขปรับปรุง ไม่ให้เป็นภาระของผู้รับทุน สิ่งที่สำนักงานกองทุนฯ กำลังจะทำคือ อะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรค แล้วไปลดทอนประสิทธิภาพ คุณภาพของการทำงาน ชิ้นงาน แล้วมีระบบตรวจสอบ ระบบติดตาม ทั้งคงความโปร่งใสไว้ไม่น้อยกว่าเดิมหรือมากขึ้นกว่าเดิม
ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
 

“คนที่จะมาเขียนโครงการขอทุน ต้องไปอ่าน ม.5 ของ พรบ.กองทุน อ่านเสร็จก็ไปดูยุทธศาสตร์เราว่าเราต้องการอะไร หลายคนเสียดาย เรารู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร ซึ่งดีและไม่ผิด แต่ดีสำหรับ หน่วยงานอื่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเมื่อเอากรอบของกองทุนสื่อมาจับ” 


หน่วยงานเล็ก ภารกิจยิ่งใหญ่ 

“กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นหน่วยงานเล็ก ๆ ที่มีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งทุนมหาศาล ทุนที่ให้เราให้เทียบไม่ได้เลย แต่เราต้องการให้เป็นจุดตั้งต้น ต้องการให้คนที่มาทำซีรีย์ ได้สะท้อนคุณภาพ สะท้อนความตั้งใจ แล้วภาครัฐเห็น วันนั้นเราเชื่อว่า การสนับสนุนในเชิงนโยบายจะเกิด เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่า เงินไม่ใช่ข้อจำกัด แต่อยู่ที่ไอเดียสร้างสรรค์ เราพยายามแล้ว ลงมือทำแล้ว ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่พอใจสังคมจะตัดสินให้เราเดินต่อ” 

เปิดเทคนิคเขียนโครงการพิชิตทุน 

ในแต่ละปี มีผู้เสนอโครงการต่าง ๆ เพื่อขอรับทุนสนับสนุนจากกองทุนฯ จำนวนมาก เมื่อมีจำนวนคู่แข่งสูง กองทุนฯ จึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาโครงการต่างๆ ที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม

คำแนะนำจาก พัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ ก็คือ การตอบคำถามกับโจทย์ 5 W 1 H  คือ Who-What-When-Where-Why + How ให้ได้ 

Who  – คนขอทุนต้องรู้ว่าขอทุนจากใคร ในที่นี้คือ กองทุนสื่อฯ ก็ต้องรู้ว่า กองทุนเป็นใครให้ทุนเพื่ออะไรและต้องแนะนำตัวเองให้ได้ว่าผู้ขอทุนคือใคร ทำไมถึงเหมาะที่จะรับทุนนี้ ทีมงานเป็นใคร เหมาะที่จะรับทุนหรือเปล่า 

What – ทำอะไรต้องเขียนให้ชัด ประเด็นนี้ดูเหมือนง่ายแต่ส่วนใหญ่จะตกผู้เสนอโครงการต้องประเมินสถานการณ์ที่มีคู่แข่งเป็นพันโครงการ ดังนั้นต้องเคลียร์โครงการให้ชัด เพราะส่วนใหญ่ชอบเขียนไอเดีย แต่แตกเป็นรูปธรรมไม่ได้ว่าจะทำอะไร 

When – ช่วงเวลาที่จะผลิต ต้องสัมพันธ์กันกับกิจกรรม แต่ทั้งนี้ทุกอย่างต้องให้เสร็จภายใน 365 วัน

Where – สถานที่ ในการถ่ายทำหรือจัดกิจกรรม ถ้าเสนอมาแล้วคนละที่ ไม่มีการรีเสิร์จ ก็อาจถูกตัดคะแนน

Why – ทำไมถึงทำโครงการ มีแรงบันดาลใจ มี Passion อย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลโน้มน้าวกรรมการตัดสินโครงการ

How – อย่างไร ข้อมูลนี้จะเป็นตัวตัดสินว่า ผู้ขอทุนมีองค์ความรู้ มีความเชี่ยวชาญหรือไม่ โดยต้องแตกโครงการออกมาให้ชัดมีรายละเอียด ยกตัวอย่าง การถ่ายทำรายการหากมีผู้ขอทุนดำเนินโครงการเพียงคนเดียว เมื่อไปเปรียบเทียบกับโครงการลักษณะเดียวกัน แต่การทำงานมีทีมงาน ผู้ขอโครงการรายหลังมีโอกาสจะได้รับเลือกมากกว่า   
พัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ

สำหรับผู้สนใจ คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวใกล้ชิด กิจกรรมต่อไป จะมีการเปิดอบรมออนไลน์ เพื่อสร้างทักษะการเขียนโครงการขอรับทุนในวันที่ 26 ก.ย. 66 และจะเปิดรับข้อเสนอโครงการที่ขอรับทุนสนับสนุน ตั้งแต่วันที่ 1  –  31 ต.ค. 66 ภายในเวลา 16.30 น. จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาโดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ และคณะทำงานพิจารณา และพัฒนาข้อเสนอโครงการฯ ก่อนจะประกาศผลและมอบทุนให้ภายในเดือนมีนาคม 2567 

ผู้สนใจสามารถยื่นข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ได้ทางเว็บไซต์กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ www.thaimediafund.or.th และติดตามข้อมูลข่าวสารทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โทรศัพท์ 02-273-0116-9


 

    News Hub